ศาลตลิ่งชัน ให้ประกัน "เสี่ยเบนซ์"

 

          วันที่ 13 เม.ย.62 - ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถ.ทุ่งมังกร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ได้ควบคุมตัว นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาเมาแล้วขับรถเบนซ์ ชนประสานงานรถยนต์ครอบครัว รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-24 เม.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องทำการสอบสวนปากคำพยานอีก 4 ปาก และรอผลชันสูตรพลิกศพ บาดแผล พร้อมกับรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาประกอบคดี 

 

          โดยคำร้องได้ระบุพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 23.30 น. พนักงานสอบสวนสน.ศาลาแดง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถยนต์ชนกัน ที่ถ.ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง-เขตทวีวัฒนา เมื่อได้ออกตรวจที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เบนซ์ ทะเบียน บฮ-789 กทม แต่ขณะนั้นไม่พบตัวคนขับเนื่องจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำตัวส่งโรงพยาบาลธนบุรี 2 เพราะได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เกิดเหตุพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟ ทะเบียน 2 กก-3653 และทราบจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ว่า ยังมีนางนงนาฏ งามสุวิชชากุล ภรรยาและ ด.ญ.พิชญาภา บุตรสาว ซึ่งนั่งโดยสารมาด้วยได้รับบาดเจ็บ ก็ได้นำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว แต่ต่อมานางนงนาฏได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 

 

          โดยการเกิดเหตุการณ์ ทราบว่า นายสมชาย ผู้ต้องหา ได้ขับรถเบนซ์วิ่งมาจาก ถ.พุทธมณฑลสาย 3 จะไปทาง ถ.พุทธมณฑลสาย 2 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถ.ทวีวัฒนา- กาญจนาภิเษก ได้ขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถของ พ.ต.ท.จตุพร ที่วิ่งมาจาก ถ.พุทธมณฑลสาย 2 กำลังมุ่งหน้าไป ถ.พุทธมณฑลสาย 3 จึงได้พุ่งชนกันอย่างแรง เป็นเหตุให้รถยนต์ทั้ง 2 คันได้รับความเสียหาย และ พ.ต.ท.จตุพร เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และจากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 62 นายสมชาย ผู้ต้องหา ได้ดื่มเบียร์มาจากสนามไดร์ฟกอล์ฟ แขวง-เขตทวีวัฒนา กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.ได้ขับรถเบนซ์คันเกิดเหตุ ออกมาตามถ.ทวีวัฒนา- กาญจนาภิเษก จนได้มาชนกับรถของผู้ตาย และเมื่อได้ทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ พบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งข้อหากระทำผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย , เมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 , 300 และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2)(4)
 

 

          ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามคำร้อง

 

          ทั้งนี้ภายหลังการยื่นคำร้องฝากขังแล้ว ญาติของนายสมชาย ผู้ต้องหา ก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 200,000 บาทเพื่อยื่นขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขังนี้

 

          โดยเมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ศาลพิจารณาแล้ว ก็อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายสมชาย ผู้ต้องหาไป โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดีการยื่นคำร้องฝากขังนั้น ครั้งแรกพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังโดยระบุความผิดฐานเจตนาฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นมาในคำร้องฝากขังด้วย แต่เมื่อศาลได้พิจารณาในเบื้องต้นแล้วได้ชี้แจงข้อกฎหมายกับพนักงานสอบสวน และให้นำเอกสารคำร้องฝากขังไปพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำเอกสารคำฟ้องไปแก้ไข พร้อมยื่นเข้ามาใหม่ โดยระบุข้อกล่าวหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 , 300 และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2)(4) ดังกล่าว