ข่าว

คู่กรณีทำร้ายคนขับรถเมล์พบตำรวจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โผล่รับทราบข้อหาแล้ว 2 สาวขับเก๋งยัวะคนขับรถเมล์สาย 543ก ปรี่ทำร้ายคาที่นั่งคนขับ อ้างฉุนถูกเบียดจนรถได้รับความเสียหาย แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมรับผิดชอบ

 

              จากกรณีเหตุการณ์หญิงสาวผมยาว และผมสั้น วิ่งขึ้นมาบนรถเมล์คันหนึ่ง พร้อมกับลงมือต่อยไปยังใบหน้าของคนขับรถเมล์ ท่ามกลางกระเป๋ารถเมล์และผู้โดยสารรายอื่นๆ ที่พยายามห้ามปราม ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดหน้ารถเมล์คันดังกล่าว ได้ถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊กชื่อ “สามารถ หงษ์ทอง” นั้น

 

 

 

              เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 ที่อู่รถเมล์บางเขน นายสามารถ หงษ์ทอง เจ้าของเฟซบุ๊กและเป็นคนขับรถเมล์สาย 543ก ที่ปรากฏถูกทำร้ายในคลิป เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. ขณะที่ตนขับรถผ่านบริเวณปากซอยรัชดา 70 ได้มีรถแท็กซี่ชนกันบนถนนเลนซ้ายสุด ดังนั้นจึงเบี่ยงออกมาขับอยู่เลนที่ 2 จากซ้าย

              จากนั้นได้มีรถเก๋งสีขาว คู่กรณีเบี่ยงจากเลนซ้ายสุดมาแซงหน้ารถตน ทำให้บริเวณหน้ารถข้างซ้ายของตนเบียดชนกับรถคู่กรณี จึงลงมาตรวจสอบพร้อมแจ้งตำรวจ สน.ประชาชื่น โดยตลอดเวลาคู่กรณีได้ด่าทอ และบอกว่ามีเด็กอยู่ในรถ ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่เห็นว่ารถคันนี้จะเบี่ยงขวาออกมาจริงๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น แต่คู่กรณีไม่ยอมฟังยังคงด่าทอ ตนจึงขึ้นมารอบนรถเมล์เตรียมขยับรถออกไปจอดใต้สะพานลอย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร แต่คู่กรณีได้วิ่งขึ้นมาบนรถพร้อมกับถือไม้เบสบอล ก่อนตรงมาต่อยทำร้ายร่ายกายตน โดยยืนยันไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย

 

 

คู่กรณีทำร้ายคนขับรถเมล์พบตำรวจ

 

 

              ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีอาการฟกช้ำตามใบหน้า มีใบรับรองแพทย์ และเข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ประชาชื่น ข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว

              ขณะที่ นางพนิดา ทองสุข รอง ผอ.ฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในส่วนของบริษัทฯ ได้ให้นายสามารถ พักงานเป็นเวลา 7 วันตามใบรับรองแพทย์ และจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้

              ทางด้าน น.ส.สุกัญญา ชื่นชูเดช อายุ 48 ปี ฝั่งคู่กรณี ได้เดินทางมายัง สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น และเตรียมพิจารณาแจ้งความกลับคู่กรณี หลังนำคลิปและภาพตนไปโพสต์ลงโซเชียล โดยเบื้องต้นยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุตนพยายามส่งสัญญาณขอทางแล้ว แต่คู่กรณีกลับไม่ให้ทาง จนเกิดการชนกันขึ้น ก่อนถูกอีกฝ่ายพูดจาไม่ดี ทั้งที่ตนพยายามบอกว่าจะพาเด็กในรถไปโรงพยาบาล เมื่อจะขึ้นไปเคลียร์บนรถยังถูกประตูรถเมล์หนีบ ทำให้บันดาลโทสะ แต่ยืนยันว่าตนไม่มีอาวุธแต่อย่างใด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ