ข่าว

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้องจบคดี "อัลรูไวลี่"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้อง ได้พิสูจน์ความยุติธรรม เชื่อตกเป็นเป้าหมายดำเนินคดีเกี่ยวเรื่องการเมืองตอนปี 52 - 53

 

               22 มี.ค. 62  พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจและอดีต ผบช.ภ.5 ได้กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา  ฎีกายืนยกฟ้อง "สมคิด - พวก" จบคดี "อัลรูไวลี่" (อ่านต่อ...)  ว่า

 

 

 

               ขอขอบคุณศาลฎีกาที่พิพากษายกฟ้องตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 5 ราย ในข้อกล่าวหาอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งได้พิสูจน์ความยุติธรรมแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไร้พยานหลักฐานทั้งสิ้น ซึ่งพวกตนก็ได้อานิสงส์จากแนวทางของประธานศาลฎีกา ที่มีนโยบายเร่งรัดให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีความให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

               "กระบวนการยุติธรรมทำให้ได้พิสูจน์ต่อสังคมให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว ที่กล่าวหาผมตลอดชีวิตรับราชการว่าผมเป็นผู้กระทำผิดในคดีนี้ บางครั้งยังไม่ถูกกล่าวหาก็โดนห้ามดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ผู้บังคับการกองปราบปราม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือผู้บัญชาการสำคัญๆ จนกระทั่งต้องไปทำหน้าที่ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งหรือความเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้าหากมีภารกิจสำคัญ ปัญหาข้อสงสัยว่าผมกระทำผิดในคดีนี้ก็ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาแต่อย่างใด ทำให้เห็นได้ว่าความรู้ความสามารถของผมนั้น ยังเป็นที่ต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ผมขอขอบพระคุณศาลซึ่งเป็นที่พึ่งในกระบวนการยุติธรรมสุดท้ายของผมในชั้นฎีกา และเป็นที่ประจักษ์ว่าผมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้กระทำตามที่กล่าวหา สำหรับตนเองไม่เป็นไร แต่สงสารผู้ใต้บังคับบัญชาไม่รู้เรื่องในทางการเมืองกลับโดนไปด้วย ต้องทุกข์ทรมาน ต้องประกันตัว ต้องมาศาลตลอดระยะเวลา 10 ปี ผมเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างหนึ่งที่จะยืนยันได้ว่าเขาจะกลั่นแกล้งผมให้ได้รับความเดือดร้อน หรือไม่ให้ผมได้รับความก้าวหน้าอย่างไร ผมก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาล เพื่อพิสูจน์ความจริง ไม่เหมือนบางคนกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ถูกต้อง แล้วหนีไปต่างประเทศ" พล.ต.ท.สมคิด ระบุ

 

 

 

 

               ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้คดีฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ถึงที่สุดแล้ว จะมีการยื่นฟ้องใครหรือไม่ พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า ตนได้ยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการไว้นานแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 2553 ซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ เพื่อรอคำพิพากษาคดีนี้ถึงที่สุด และจะนำมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง สำหรับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ขณะนั้น และพนักงานสอบสวน ทราบอยู่แล้วว่า นายสุวิชชัยหลบหนีหมายจับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ได้มีการคุ้มครองพยาน และแจ้งต่อศาลว่า พยานปากนี้ไปอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย หรือกัมพูชา เพื่อขอให้ศาลอนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบต่างประเทศ ซึ่งทำให้จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้โต้แย้ง กระทั่งศาลพิจารณาสั่งตัดพยานปากนี้ ซึ่งตนได้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไปที่หน่วยงาน ป.ป.ช. และขั้นตอนอยู่ระหว่างพิจารณา

               ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใด พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จึงตกเป็นเป้าหมายในการถูกดำเนินคดี พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องการเมือง สังเกตจากเมื่อปี 2552 - 53 มีนักการเมืองทางภาคเหนือท่านหนึ่งมากล่าวหาตนว่าเป็นคนมีข้อครหาต้องคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ทำไมถึงได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งเขาทราบได้อย่างไร เพราะขณะนั้นยังไม่มีการเรียกตัวตนเองไปรับทราบข้อกล่าวหา แสดงว่าเขาต้องมีสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานดังกล่าว ส่วนประเด็นแหวนทองคำนั้น ตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว ได้ห้ามผู้ชายมุสลิมสวมแหวนทองคำที่นิ้วมือ นอกจากนี้พี่ชายนายอัลรูไวลี่ ซึ่งเป็นพยานฝ่ายโจทก์ ก็ยังเบิกความเองว่า นายอัลรูไวลี่เป็นคนที่เคร่งศาสนา ทำให้เห็นว่าแหวนวงนี้ไม่เชื่อมโยงกับผู้ตายทั้งสิ้น เพราะเป็นแหวนต้องห้ามตามหลักศาสนา

 

 

 

               เมื่อถามว่า แหวนทองคำดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า เป็นเท็จอยู่แล้ว เพราะคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แหวนทองคำเป็นแหวนที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นการหาพยานหลักฐานเพื่อให้เข้าเงื่อนไขเป็นพยานหลักฐานใหม่เพื่อจะดำเนินคดีตนกับพวก เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการคดีมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว หากจะดำเนินคดีใหม่จึงต้องมีหลักฐานใหม่ อีกทั้งพนักงานอัยการก็ไม่ได้อ้างแหวนวงนี้ไว้ในบัญชีพยาน หากเป็นพยานหลักฐานใหม่ก็ต้องระบุไว้ เชื่อว่าในประเด็นทางการเมืองมีความพยายามที่จะไม่ให้ตนได้รับความก้าวหน้าได้รับการแต่งตั้งเป็น รอง ผบ.ตร.

 

 

 

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้องจบคดี "อัลรูไวลี่"

 

 

 

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้องจบคดี "อัลรูไวลี่"

 

 

 

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้องจบคดี "อัลรูไวลี่"

 

 

 

"สมคิด" ขอบคุณศาลยกฟ้องจบคดี "อัลรูไวลี่"

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ