ข่าว

ฝ่ายกฎหมาย คสช. เอาผิดแอดมินเพจ CSI LA แพร่ข้อมูลเท็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝ่ายกม.คสช. แจ้งความเอาผิด แอดมินเพจ CSI LA เผยแพร่ข้อมูลเท็จ กรณีปฎิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) สนับสนุนพรรคพปชร.เตือนคนแชร์ เร่งดำเนินการสำนักข่าวปลอมการันตีเพจ

 

          ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) วันที่ 21 มีนาคม พล.ต.นเรศ ขีโรท หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักเลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มอบอำนาจให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช.เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับแอดมินเพจ CSI LA ซึ่งได้กระทำการนำเข้าสู่ระบบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2)

 

ฝ่ายกฎหมาย คสช. เอาผิดแอดมินเพจ CSI LA แพร่ข้อมูลเท็จ

 

          เหตุเกิดที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. และทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 

 

          โดยเพจ CSI LA ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ 2 ภาพ เมื่อวันอังคารที่ 19 มี.ค.เวลา 20.33 น. ระบุว่า... “ลับที่สุด ทหารไม่ยุ่งการเมือง มีคนวงในส่งมา ว่ามีเอกสารลับ ขออนุมัติแม่ทัพภาค 1 ให้หน่วยขึ้นตรงทั้งหมดทำ io สนับสนุนพรรค พปชร. ฝากสื่อหลักช่วยทำหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มด้วยครับ”

 

         ส่วนภาพที่ลงประกอบเป็นรูปถ่ายเอกสารตราครุฑจำนวน 2 ภาพ ที่อ้างว่าเป็นบันทึกข้อความลับที่สุด เรื่อง สรุปผลการประชุมแลกเปลี่ยนข่าวสารการเลือกตั้งในปี 2562

 

          โดย พ.อ.บุรินทร์ ได้นำหลักฐานเอกสารจำนวนหลายหน้ามามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนติดตามบุคคลที่รับผิดชอบเพจ CSI LA มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

          ด้านพ.อ.บุรินทร์ เปิดเผยว่า เพจ CSI LA ได้เผยแพร่เอกสารที่อ้างว่าเป็นเอกสารลับเพื่อขออนุมัติ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้หน่วยขึ้นตรงทั้งหมดทำปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าขณะนี้อยู่ในช่วงของการหาเสียง แน่นอนว่าการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ มีทั้งข้อมูลที่เป็นเท็จ บิดเบือน ไม่ใช่เป็นความจริง ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมก็ได้ระบุแล้วว่าเป็นเอกสารปลอม

 

ฝ่ายกฎหมาย คสช. เอาผิดแอดมินเพจ CSI LA แพร่ข้อมูลเท็จ

 

          สำหรับเอกสารปลอมที่เพจ CSI LA นำมาเผยแพร่มีจุดสังเกตุว่าเป็นเอกสารปลอมอยู่ หลายจุด เช่น จุดที่ 1.หนังสือทางราชการทั่วไปจะมีการลงหมายเลขต่อกันไปเรื่อยๆ เมื่อมีเรื่องไหนเป็นเรื่องลับที่สุด เขาถึงจะปั๊มคำว่าลับที่สุดลงไป ไม่ใช่ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องลับที่สุดแล้วจะมาเป็นเรื่องที่หนึ่งแบบเอกสารปลอมอันนี้ จุดที่ 2.การลงประทับตราเลขรับหนังสือ เขาจะตีประทับตราด้านหลังไม่ใช่ประทับตรารับหนังสือด้านหน้าแบบเอกสารปลอม และ จุดที่ 3.เจ้ากรมกิจการพลเรือน(กจ.กร) กับ เจ้ากรมข่าว(จก.ขว.) ในเอกสารปลอมใช้ไม่ตรงกันทั้งที่ในเอกสารปลอมอ้างถึงเป็นตำแหน่งเดียวกัน เชื่อว่าคนทำเอกสารปลอมน่าจะไปหาหนังสืออื่นมาทำการตัดแปะ จึงเกิดความผิดพลาดแบบนี้

 

ฝ่ายกฎหมาย คสช. เอาผิดแอดมินเพจ CSI LA แพร่ข้อมูลเท็จ

 

          พ.อ.เอกบุรินทร์ ยังได้ฝากเตือนคนที่คิดจะแชร์ข้อมูลของเพจ CSI LA ต่อไปด้วยว่า เมื่อทางราชการออกมายืนยันแล้วว่าเป็นเอกสารปลอม ก็ยังมีความพยายามทำให้ข้อมูลของเพจ CSI LA น่าเชื่อถือด้วยการสร้างสำนักข่าวปลอมมายืนยันสนับสนุนว่าข้อมูลของเพจ CSI LA เป็นของจริง มีการทำงานกันเป็นขบวนการ หวังผลให้คนที่เข้าไปอ่านคล้อยตามและแชร์ข้อมูลปลอมออกไปมากๆ ซึ่งข้อมูลที่ CSI LA ลงเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ ฝากเตือนว่าเมื่อข้อมูลเอกสารตรงนี้เป็นของปลอมเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จแล้ว คนที่เอาไปเผยแพร่ส่งต่อก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5) เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จ จะมีความผิดไปด้วยต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนสำนักข่าวปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อการันตีเพจ CSI LA นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบเตรียมที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ฝ่ายกฎหมาย คสช. เอาผิดแอดมินเพจ CSI LA แพร่ข้อมูลเท็จ

 

          พ.อ.บุรินทร์ ยังได้ฝากเตือนคนที่เข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็น ก่อนจะแชร์ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ต่อ ขอให้เปรียบเทียบดูกับสำนักข่าวหลักๆ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ สำนักข่าวไทย (อสมท.) หรือสำนักข่าวเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือจะได้ทราบว่าข่าวนั้นเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม จะได้ไม่เป็นการทำผิดกฎหมายถูกดำเนินคดีได้.

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ