รถตัดหน้า จยย. ซิ่งเสียหลักชนเสาไฟฟ้า

 

               เมื่อเวลา 01.35 น. วันที่ 15 มี.ค. 62  ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ จันทน์สุรินทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.พระโขนง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณปากซอยอ่อนนุช 3 ถนนสุขุมวิท ซอย 77 ฝั่งขาออก แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจจราจร สน.พระโขนง แพทย์เวร รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

 

 

 

               ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณเลยทางลงสะพานข้ามคลองบางนาชิ้น ประมาณ 100 เมตร ปากทางเข้าคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้ซอยดังกล่าว พบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพทำการซีพีอาร์ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อภายหลัง นายอภิวัฒน์ พิทักษ์วนาราษฎร์ อายุ 20 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี โดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบผู้ตายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง นุ่งกางเกงขายาวสีกรมท่า ใส่รองเท้าแตะสีน้ำเงินคาดขาว สภาพศพแขนขาหักผิดรูป ที่ศีรษะมีบาดแผลกะโหลกแตกนอนเสียชีวิตอยู่บนฟุตปาธข้างเสาไฟฟ้า

               ห่างไปไม่ไกลพบรถ จยย. ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับเยินทั้งคัน โดยเฉพาะส่วนท้ายรถมีร่องรอยการถูกชน และพบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีดำ แตกทั้งใบ ทั้งนี้ยังพบว่าที่พื้นฟุตปาธมีร่องรอยการไถลของรถ จยย. เป็นทางยาวกว่า 5 เมตร และร่องรอยการกระแทกกับเสาไฟฟ้า ทางตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพได้ส่งชันสูตรที่ รพ.จุฬาฯ

               จากการสอบถามเพื่อนผู้ตายทราบว่า นายอภิวัฒน์มีอาชีพเป็นพนักงานนวดอยู่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปยืมรถ จยย. คันนี้จากเพื่อนที่ย่านห้วยขวาง ตั้งใจที่จะขับขี่กลับไปสอบที่ลงเรียน กศน. ไว้ที่บ้านเกิด จ.กาญจนบุรี ในรุ่งเช้าที่จะถึงนี้ ซึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะแยกย้าย กลุ่มเพื่อนได้เตือนให้ขับขี่ระมัดระวัง เนื่องจากทราบดีว่าผู้ตายชอบขับขี่ด้วยความเร็ว อีกทั้งผู้ตายเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว มักจะต้องส่งเงินไปให้ที่บ้านเสมอด้วย

 

 

 

               นอกจากนี้ จากการสอบถามพยานแวดล้อมทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นว่ารถ จยย. คันดังกล่าวขับขี่ลงสะพานมาด้วยความเร็ว กระทั่งมีรถยนต์ขับเบี่ยงซ้ายจะเข้าคอนโดฯ ดังกล่าว ทำให้ผู้ตายเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างจังจนร่างติดกับเสาไฟฟ้า ส่วนรถ จยย. ยังหมุนต่อไปฟาดกับเสาไฟฟ้าอีกต้น

               เบื้องต้น ทางตำรวจยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ต้องทำการสอบสวนรวมทั้งรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป