ข่าว

เช็ก 100 วงจรปิดหาใบหน้าจี้ชิงทอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร. เร่งตรวจ จยย. คนร้ายจี้ชิงทอง เก็บวงจรปิดกว่า 100 จุด ชี้ วางแผนการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่มืออาชีพ คาดว่าน่าจะคงยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร

 

               เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มี.ค. 62 ที่ สน.ทองหล่อ  พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 เปิดเผยความคืบหน้าติดตามคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทองรูปพรรณหนัก 215 บาท มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ในร้านทองออโรร่า ห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพระรามสี่ แล้วหลบหนี ว่า

 

 

 

               ได้มอบหมายเร่งรัดดำเนินการดูกล้องวงจรปิดในเส้นทางย้อนหลัง ตามสถานที่ห้างและเส้นทางที่หลบหนีอื่นๆ พร้อมทั้งตรวจสอบแผนประทุษกรรม ผู้ที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ทราบถึงรูปหน้าก่อน เนื่องจากขณะนี้เรายังอยู่ระหว่างการหาภาพใบหน้าของคนร้าย ต้องค่อยๆ พิสูจน์ทราบ

               พล.ต.ต.มงคล กล่าวว่า หากเราสามารถได้ภาพหน้าคนร้ายก็จะทำให้การพิสูจน์ทราบต่างๆ เกิดความถูกต้องในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับ ส่วน จยย. ยามาฮ่า ฟีลาโน่ อยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานและตรวจสอบผู้ครอบครองและผู้ที่นำรถมาใช้อยู่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งการทำงานของงานสืบสวนอาจจะเป็นอุปสรรค เพราะอยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบผู้ครอบครองหรือผู้ที่ใช้รถคันนี้ หากนำเสนอไปเขาไปตั้งหลักปกปิดญาติเขาที่นำไปใช้ ซึ่งยังอยู่ระหว่างหารูปหน้าเต็มของคนร้ายรายนี้ ถ้าเรามีรูปหน้าแล้วคงไม่เป็นปัญหา เพราะไปเทียบเคียงกับผู้ครอบครองหรือญาติผู้ครอบครองได้ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะยังอยู่ระหว่างการเร่งติดตามคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป

               พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ชุดสืบสวนได้รวบรวมกล้องวงจรปิดกว่า 100 ตัว ตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมถึงกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าที่สามารถบันทึกภาพขณะคนร้ายก่อเหตุ แต่ยังเป็นภาพในระยะไกล ขณะนี้ยังขาดภาพวงจรปิดที่จับภาพใบหน้าของคนร้ายในลักษณะหน้าตรง คาดว่ากล้องวงจรปิดของร้านทองที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด โดยชุดสืบสวนต้องรอทางสำนักงานใหญ่ของร้านทองนำภาพวงจรปิดมาให้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับต่อไป

 

 

 

               รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุที่คาดว่าทำให้คนร้ายเลือกก่อเหตุที่ร้านทองดังกล่าว เนื่องจากมาตรการการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างหละหลอม เนื่องจากไม่มีลูกกรงกั้น ไม่มี รปภ. มีแต่พนักงานผู้หญิง ล่าสุด พบว่าคนร้ายได้ทิ้งรถ จยย. ยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไว้บริเวณศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจหาลายนิ้วมือแฝงแล้ว อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ โดยคนร้ายมีการวางแผนการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่มืออาชีพ ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว คาดว่าน่าจะคงยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร

               ต่อมา รายงานข่าวแจ้งว่า พบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่บริเวณถนนราชดำริ ช่วงหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระบุวันที่ 7 มี.ค. เวลา 16.29 น. โดยปรากฏภาพคนร้ายเดินเท้าอยู่หน้าห้างมุ่งหน้าประตูน้ำ แต่มีจุดที่น่าสังเกต คือ คนร้ายได้มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าการแต่งกายจากเสื้อกันหนาวแบบไหมพรม สีขาว มีลายสีน้ำเงิน - แดง คาดหน้าอก เปลี่ยนเป็นเสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว ไม่มีลวดลายแต่อย่างใด แต่ยังคงสวมกางเกง รองเท้าเดิม อีกทั้งยังใส่วิกผม และปิดหน้ากากแมสไว้อยู่ ที่มือซ้ายถือถุงพลาสติกสีขาวขนาดใหญ่เช่นเดิม ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของโชเฟอร์แท็กซี่ที่คนร้ายระบุว่าจะเดินทางไปยังประตูน้ำ

               รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คนร้ายรายนี้ได้แวะเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำ ชั้นที่ 1 ของห้างเกตเวย์ จากพฤติกรรมการหลบหนีของคนร้ายเชื่อได้ว่ามีการเตรียมวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการวางแผนการหลบหนีด้วยวิธีการเปลี่ยนชุด มีการเดินทางด้วยวิธีต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกัน เพื่ออำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ง่าย ซึ่งน่าเชื่อว่าคนร้ายอาจนำลักษณะการก่อเหตุและหลบหนีมาจากภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวโจรกรรมจากต่างประเทศ

 

 

 

เช็ก 100 วงจรปิดหาใบหน้าจี้ชิงทอง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ