ข่าว

รวบรองนายกพะเยา ลอบเข้ารหัส Polis ฉกประวัติบุคคลขาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบรองนายกเทศมนตรีพะเยา ลักลอบเข้ารหัส Polis ฉกข้อมูลประวัติบุคคลขาย 500 รายชื่อ ทำมานานกว่า 3 เดือน สั่งตรวจสอบละเอียด ที่มา-ที่ไป ใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง

 

          ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่13 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. แถลงจับกุม นายสมชาย เข็มเพชร อายุ 37 ปี รองนายกเทศมนตรีตำบลเวียงลอ อ.จุน จว.พะเยา และเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองท้องถิ่น ผู้ต้องหาลักลอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์ (polis) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังมีผู้เสียหายแจ้งเบาะแสกับตำรวจว่ามีกลุ่มคนร้ายทำการลักลอบเข้าใช้คอมพิวเตอร์ฯ โดยใช้ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรของผู้อื่นนำไปขาย จึงได้เร่งรัดตรวจสอบ กระทั่งจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวขณะกำลังเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ฯได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางเขน พร้อมของกลาง จำนวน 9 รายการ

 

          พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีรหัสเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 5 บัญชี เป็นรหัสของตำรวจที่เคยปฏิบัติหน้าที่สืบสวนและป้องกันปราบปรามระดับผู้กำกับการ จนถึงระดับรองสารวัตร (ผกก.-รองสว.) ในพื้นที่ สภ.ธัญบุรีและสภ.เมืองนครปฐม ก่อเหตุมานานแล้วกว่า 3 เดือน ลักลอบนำข้อมูลประวัติจำนวน 500 รายชื่อไปขายชื่อละ 1,000 บาท มูลค่ากว่า 500,000 บาท จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ต้องหามีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับตำรวจดังกล่าว แต่ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วว่านำรหัสหรือพาสเวิร์ดมาได้อย่างไร ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการนำรายชื่อไปใช้ทำอะไร ,ใครซื้อข้อมูลบ้าง เนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมนี้อาจนำไปใช้ในทางที่ผิด เนื่องจากเป็นข้อมูลชั้นความลับที่นำไปใช้ได้หลายเรื่อง ทั้งข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ,เช็คประวัติอาชญากรคดีอาญา ,โดยได้สั่งการให้เข้าไปขยายผลและตรวจค้นสถานที่สำคัญต่างๆ แล้ว

 

          ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (มาตรา7) เข้าถึงโดยมิชอบ ซึ่งระบบ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกัน การเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับตนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ