ข่าว

มองไม่เห็น พ่วง 22 ล้อทับจยย.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ถูกรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อเหยียบเสียชีวิต บริเวณช่องทางด่วนตรงข้ามบริษัทน้ำพริกเผาแม่ประนอม

 

               เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 ม.ค. 2562 ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ แก้วศรี รอง สว.(สอบสวน)สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ทับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต บนถนนถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

 

               ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางด่วนทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯช่วงตรงข้ามบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ในเลนซ้ายสุดพบรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกยี่ห้อ อีซูซุหมายเลขทะเบียนส่วนหัว 82-4466กาญจนบุรี ส่วนพ่วง 81-9988กาญจนบุรี จอดอยู่ ตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถบริเวณล้อหลังด้านขวา พบศพนายสมโภช ชุ่มสูงเนิน อายุ 45 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อคสีชมพู สภาพศพถูกล้อรถพ่วงบดกับถนนจนเห็นถึงกระดูก ข้างศพบริเวณกลางถนน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง หมายเลขทะเบียน กษน 619 ราชบุรี ล้มตะแคงข้าง ส่วนท้ายรถพังยับ ตรวจสอบภายในตัวและกระเป๋าสะพายของของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมพบเพียงเครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง และอุปกรณ์ช่าง

 

 

มองไม่เห็น พ่วง 22 ล้อทับจยย.

 

 

               สอบสวนนายทศพล คำสวน อายุ 21 ปี คนขับรถพ่วงเปิดเผยว่า ตนบรรทุกทรายมาเต็ม 2 พ่วงท้ายจาก จ.กาญจนบุรี กำลังจะนำไปส่งที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยขับมาในเลนซ้ายสุดอย่างช้าๆ เพราะถนนช่วงดังกล่าวการจราจรติดขัด รถขับชลอไปเรื่อยๆ กระทั่งมีคนตะโกนว่าเหยียบคน ด้วยความตกใจตนก็เหยียบเบรกทันทีก่อนลงมาดูก็เห็นว่าอยู่ในสภาพนี้แล้ว ซึ่งไม่ทราบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับมาในทิศทางไหนโดนใครเฉี่ยวชนมาก่อนหรือเสียหลักล้มเข้ามาอยู่ใต้ท้องรถ เนื่องจากตนขับช้าๆในเลนซ้าย ไม่ได้มีการหักเปลี่ยนเลนแต่อย่างใด

               ร.ต.อ.ถิรวัฒ เผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวคนขับรถบรรทุกไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์ และยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเกิดจากกการเสียหลักเฉี่ยวกับรถบรรทุกหรือมีรถคันอื่นเฉี่ยวชนก่อนเข้ามาถูกรถพ่วงทับ ต้องให้เจ้าหน้าที่ พฐ. ทำการตรวจสอบสภาพรถจักรยานยนต์และรถบรรทุก ทั้งนี้จะตรวจสอบหากล้องวงจรปิดและพยานที่เห็นเหตุการเข้าให้การเพิ่มเติมก่อนจะแจ้งข้อหากับผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง อย่างไรก็ดีจะได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ