ทนายพร้อมพ่อแม่ผู้ต้องหาคดี "น้องต้าแง" เข้าร้องกองปราบฯ ขอรื้อสำนวนการสืบสวน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 61 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วย นายสมจิต ฉิมมา และนางพยุง สร้อยทอง พ่อแม่ของ นายทองขวัญ ฉิมมา หรือ นายฝน ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ น้องต้าแง เด็กชายชาวเมียนมา วัย 2 ขวบ ที่หายตัวไปก่อนถูกพบเป็นศพในป่าอ้อย จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและให้เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสอบ สภ.สระยายโสม ที่ทำคดี มาเป็นพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นอกจากนี้ยังขอให้สืบสวนคดีใหม่ทั้งหมด
นายอนันต์ชัย ระบุว่า จากการพูดคุยกับครอบครัวนายทองขวัญ พบว่า นอกจากนายทองขวัญจะเป็นผู้พิการทางสติปัญญาแล้ว ยังพิการทางการเรียนรู้ และเป็นออทิสติก ทำให้นายทองขวัญมีอายุสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ ประกอบกับนายทองขวัญไม่เคยไปบริเวณไร่อ้อยที่เกิดเหตุ และระยะทางจากวัดไปถึงจุดพบศพเด็กชายวัย 2 ขวบ ไกลถึง 3.4 กิโลเมตร และไกลจากบ้านของนายทองขวัญ 1.5 กิโลเมตร ระหว่างทางเป็นป่าอ้อย ทางคดเคี้ยวหลายแยก หากนายทองขวัญไปจริงเชื่อว่าไม่มีทางกลับบ้านถูกแน่นอน ประกอบกับพฤติกรรมของนายทองขวัญชอบขี่รถจักรยานเวลาไปมาไหน และเป็นคนรักรถจักรยานมาก ไม่มีทางทิ้งรถจักรยานและจูงเด็กชายไปแน่นอน แต่หากวิเคราะห์ว่าให้เด็กชายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานก็เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีที่นั่งซ้อนท้าย
นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบพิรุธทางคดีหลายส่วน พบการทำลายสถานที่โดยการลอกคูน้ำขึ้นมาทั้งหมดทันทีหลังพบศพเด็กชาย ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่พนักงานสอบสวนนำตัวนายทองขวัญชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีการใช้คำถามชี้นำ จนทำให้นายทองขวัญตอบเพียงคำว่า “อื้อ” เนื่องจากเป็นเด็กออทิสติก ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่มีการเรียกพยานจำนวน 8 ปาก ที่สามารถยืนยันว่านายทองขวัญไม่อยู่กับเด็กชาย 2 ขวบ ในวันเกิดเหตุ จนกระทั่งชาวบ้านออกมาประท้วงกดดัน ทำให้พนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานเพียง 5 จาก 8 ปาก ซึ่งพยานอีก 3 ปาก ที่ไม่เรียกสอบปากคำนั้น มีพระสงฆ์จำนวน 2 รูป โดยพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า ไม่สามารถเชื่อถือได้ เนื่องจากนายทองขวัญเป็นลูกศิษย์ของวัด
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังให้เหตุผลที่ไม่เรียกพยาน 8 ปาก มาสอบว่า ชาวบ้านไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ในช่วงวันที่ 17 ถึง 25 ธันวาคมได้ ซึ่งในความเป็นจริง ชาวบ้านสามารถจดจำเหตุการณ์ได้ เนื่องจากวันที่ 16 เป็นวันที่ประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวถูกรางวัล จึงมีการจัดเลี้ยงในวันที่ 17 ธันวาคม ทำให้มีพยานจดจำได้ว่านายทองขวัญร่วมกินก๋วยเตี๋ยวและอยู่ในวัดวันที่เกิดเหตุ ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นการจัดฉาก น่าจะมีการเสียชีวิตจากจุดอื่น ก่อนจะนำศพมาทิ้งในจุดที่พบ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีการค้นหาในพื้นที่ดังกล่าวหลายครั้งแต่กลับไม่พบศพ แต่เมื่อกระแสสังคมเริ่มรุนแรงขึ้น กลับพบศพในจุดดังกล่าวและใกล้จะยุติการค้นหากลับพบศพเด็กชายวัย 2 ขวบ ในจุดดังกล่าว ขณะที่ผลนิติวิทยาศาสตร์ยังระบุว่า เด็กชายวัย 2 ขวบ ไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่ในจุดเกิดเหตุกลับมีคูน้ำ จึงตั้งข้อสังเกตว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
นายสมจิต พ่อนายทองขวัญ ยืนยันว่า ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากลูกไม่เคยออกนอกเส้นทางจากวัดกลับบ้าน มีเพียงครั้งเดียว และหลงหาทางกลับบ้านไม่ถูก ประกอบกับนายทองขวัญลูกชายมีอาการลมชัก ต้องกินยาสม่ำเสมอ
โดยหลังจากนี้ทางครอบครัวจะไปร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยชุดพนักงานสอบสวนที่ทำคดี ในช่วงบ่ายของวันนี้
ต่อมาเวลา 13.40 น. นายอนันต์ชัย ทนายความ พร้อมด้วย นายสมจิตและนางพยุง พ่อแม่ของนายทองขวัญ เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เรียกร้องให้มีคำสั่งเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน จาก สภ.สระยายโสม ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับผิดชอบแทน และรื้อคดีสืบสวนสอบสวนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตัวจริงที่ทำให้น้องต้าแงเสียชีวิตในไร่อ้อย โดยมี พ.ต.อ.ธวัชศักดิ์ โปตระนันทน์ ผบก.อก.สทศ. ในฐานะนายตำรวจหัวหน้าเวรอำนวยการ รับเรื่องเพื่อส่งต่อให้พิจารณา
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตนเองขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวน สภ.สระยายโสม ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนแถลงข่าวและออกหมายจับนายฝน ข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจากคดีมีการสอบสวนโดยชี้นำพยานให้เป็นไปตามความต้องการของพนักงานสอบสวน และละเว้นสอบสวนพยานบางปาก
นอกจากนี้ยังขอให้ ผบ.ตร. สั่งสอบสวนว่า พนักงานสอบสวนมีการดำเนินคดีกับเจ้าของไร่อ้อยของบิดาและมารดาน้องต้าแงหรือยัง หากยังก็ขอให้ดำเนินคดี และตั้งกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนที่ละเว้นกรณีดังกล่าว ทั้งทางวินัยและอาญา
ทั้งนี้ ตนเองยืนยัน นายฝนไม่ใช่ผู้พาน้องต้าแงไปเล่นน้ำจนเสียชีวิต การตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์นั้นต้องพิจารณาจากเจตนา แต่กรณีนี้ไม่มีพฤติการณ์บ่งบอก เชื่อว่าน้องต้าแงเพียงออกไปเล่นกับนายฝนซึ่งมีอายุสมองพอๆ กันเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง