ข่าว

ผู้การฯ สุพรรณบุรี แจงออกหมายจับชายสติไม่สมประกอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้การฯ สุพรรณบุรี แจงปมออกหมายจับชายสติไม่สมประกอบ หลังก่อเหตุพาน้องต้าแง วัย 2 ขวบเข้าป่าอ้อย จนเสียชีวิตในร่องน้ำ ชี้มีข้อมูลแน่น สอบพยานไปแล้ว 59 ปาก

 

          ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และพ.ต.อ.สมเดช เกษมสุข ผกก.(สอบสวน) ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางมารายงานความคืบหน้าและชี้แจงต่อสื่อมวลชน ในประเด็นการเสียชีวิตของ ด.ช.ซูลุยผิว หรือน้องต้าแง วัย 2 ขวบ ที่หายเข้าไปในไร่อ้อยนานกว่า 9 วัน ก่อนพบว่าเสียชีวิตภายในร่องน้ำในไร่อ้อยดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการออกหมายจับนายฝน อายุ 32 ปี ชายสติไม่สมประกอบ ในข้อหาพรากผู้เยาว์

 

          พล.ต.ต.คมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการติดตามคดี และตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพื่อให้มีความรัดกุมและรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมมากที่สุดกับทั้งสองฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่ฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และสอบพยานไปแล้วกว่า 59 ปาก เป็นพยานที่ให้การเป็นประโยชน์ รวมพยานฝั่งของ นายฝน จำนวน 8 ปาก ทั้งนี้ การที่ตำรวจออกหมายจับนายฝน ไม่ได้หมายความว่านายฝน เป็นคนฆ่าน้องต้าแง แต่จากการสอบปากคำนายฝน ให้การว่า วันนั้นได้พาน้องไปเล่นน้ำ และเจ้าหน้าที่ได้ให้นายฝน พาไปยังจุดที่น้องเสียชีวิต โดยนายฝน สามารถพาไปถูกถึง 2 ครั้ง ทั้งๆที่ระยะทางห่างกันเกือบ 1 กิโลเมตร

 

ผู้การฯ สุพรรณบุรี แจงออกหมายจับชายสติไม่สมประกอบ

 

          ทั้งนี้ จากการสอบสวนไม่มีใครอื่นที่น่าสงสัยอีกแล้ว ตำรวจจึงออกหมายจับ ต่อมาก็ทราบว่า นายฝน เป็นคนสติไม่สมประกอบ และถึงแม้ว่าจะมีอายุ 32 ปี แต่ระบบสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ส่งตัวนายฝน ไปที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อยืนยัน และประเมินสภาพจิตว่าเป็นอย่างไร ในวันเกิดเหตุมีความสามารถในการรู้สึกผิดชอบชั่วดีแค่ไหน สามารถสู้คดีในชั้นศาลได้หรือไม่ โดยตำรวจได้ส่งตัวไปตั้งแต่ 27 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา และคงต้องรอผลอีก 45 วัน จึงจะทราบผล

 

          พล.ต.ต.คมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่ชาวบ้านยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายฝน เป็นผู้ที่พาเด็กไปนั้น เนื่องจากในวันเกิดเหตุนายฝนอยู่ที่วัด ต้องบอกว่าจากการสอบปากคำของพยานหลายคนให้การไม่ตรงกันเลย เด็กหายตัวไปในวันที่ 17 ธ.ค.61 มาเจอศพน้องวันที่ 25 ธ.ค.61 ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์แล้ว เหตุการณ์ที่ผ่านไปหลายวันขนาดนี้มันจำไม่ได้หรอก แล้วถ้าช่วงที่เกิดเหตุนายฝนไปที่วัดจริง แต่ในช่วงที่เขาหายออกไปใครรู้บ้าง ดังนั้น การสอบปากพยานหลายคนก็ให้การไม่ตรงกัน ทั้งนี้ หากใครมีหลักฐานใหม่มาเพิ่มเติม ตำรวจก็พร้อมที่จะรับฟัง

 
          ส่วนกรณีทนายจะพาพ่อแม่ไปร้องกองปราบ เพื่อขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนนั้น ตนไม่มีอะไรขัดข้อง ถ้าผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมที่จะทำตาม ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกรณีที่ข่าวมีการเสนอออกไป เป็นข้อมูลเพียง 20 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 80 เปอร์เซนต์ อยู่ในสำนวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้ ย้ำว่า ควรที่จะรอผลจากโรงพยาบาล ซึ่งจะชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง สำหรับประเด็นที่มีการวิจารณ์กันว่า จุดที่พบศพเด็กห่างจากจุดหายตัว 5 กิโลเมตรนั้น เป็นการให้ข้อมูลที่คาดเคลื่อน ความจริงแล้วจุดที่พบศพห่างเพียงแค่ 840 เมตรเท่านั้น.

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ