หนีไม่รอด !! "สาวแสบ" ฉ้อโกงกว่าสิบล้านบาท

 

               ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.วิเคราะห์ข่าวฯ และ ร.ต.อ.สิทธิเดช หาญจริง รอง สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวอัญชรินท์ รัตนสิงห์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 55/270 ซ.พระยาสุเรนทร์ 44 ต.คลองสามวา อ.คลองสามวา จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 496/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. 61 ในข้อหา “ฉ้อโกงฯ” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อริมถนนราชดำเนิน ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

 

 

 

               สืบเนื่องจากตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง โดยคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกผู้ต้องหาหลอกขายสินค้าแบรนด์เนมซึ่งมีราคาสูง จำพวกกระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับ ฯลฯ ในสังคมออนไลน์ โดยมีทั้งหลอกให้โอนเงินชำระค่าสินค้าและโอนเงินค่ามัดจำสินค้าสำหรับสินค้าพรีออเดอร์ไปยังผู้ต้องหา เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้า จึงได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ระมัดระวังในการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ต้องหานี้ และได้มีการติดตามเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ โดยได้มีการขอความช่วยเหลือไปยังสื่อสังคมออนไลน์รวมทั้งขอความช่วยเหลือไปยังผู้สื่อข่าวหลายสำนัก

               ต่อมาทาง พล.ต.ต.อิทธิพล ผบก.สส.บช.น. ได้ทราบเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการระงับยับยั้งไม่ให้ก่อเหตุเพิ่มเติม และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียหาย ต่อมา กก.วิเคราะห์ข่าวฯ จึงได้สืบสวนติดตามจนทราบว่าคนร้ายหลบหนีไปกบดานที่ จ.เพชรบุรี จึงนำกำลังไปพบผู้ต้องหาจึงแสดงตัวทำการจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ และควบคุมตัวสอบสวน บก.สส.บช.น.
 

 

 

               เบื้องต้น ทางผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ได้โพสต์ประกาศขายสินค้าแบรนด์เนมตามหน้าเว็บเพจและสื่อต่างๆ ในสังคมออนไลน์ เช่น อินสตาแกรม เฟซบุ๊กที่ตนเองได้สมัครไว้ โดยสินค้าดังกล่าวนั้นมีทั้งสินค้าที่มีอยู่จริงและสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสอง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินชำระค่าสินค้าหรือเงินมัดจำค่าสินค้ามา ก็ไม่ได้ส่งสินค้าให้ผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหาทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งที่ได้แจ้งความแล้วและยังไม่แจ้งความ ทาง บก.สส.บช.น. จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลของคนร้าย ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท และสืบสวนติดตามจับกุมจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ดังกล่าว

               นอกจากนี้ ทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบพบว่า นางสาวอัญชรินท์ ยังมีหมายจับอีก 7 หมายจับ ดังนี้ 1. หมายจับ ศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 1182/2561 ลงวันที่ 18 ธ.ค. 61 ข้อหา พ.ร.บ.เช็คฯ 2. หมายจับ ศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 740/2561 ลงวันที่ 3 ส.ค. 61 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ 3. หมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.500/2561 ลงวันที่ 9 ส.ค. 61 ข้อหา ฉ้อโกงฯ และ พ.ร.บ.คอมฯ 4. หมายจับ ศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 714/2561 ลงวันที่ 8 ต.ค. 61 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ 5. หมายจับ ศาลแขวงธนบุรี ที่ จ.337/2561 ลงวันที่ 31 ก.ค. 61 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ 6. หมายจับ ศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.367/2561 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 61 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และ 7. หมายจับ ศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 311/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค. 61 ข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ

 

 

 

               อย่างไรก็ตาม ทาง ผบก.สส.บช.น. ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า ในปัจจุบันการติดต่อซื้อ - ขายสินค้าแบรนด์เนมในสื่อสังคมออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่าย และสินค้าแบรนด์เนมบางชนิดมีมูลค่าสูง จึงควรใช้ความระมัดระวัง และตรวจเช็กข้อมูลของผู้ขายให้ละเอียด ควรสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะพี่น้องประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาเพื่อประสงค์ทรัพย์สินของท่านเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น

               ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่ได้รับความเสียหาย หากท่านใดยังไม่แจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ เพื่อจะได้อายัดตัวผู้ต้องหานี้ตามกฎหมายต่อไป หากท่านใดมีเบาะแส หรือมีข้อสงสัยว่าจะถูกหลอกลวง สามารถให้เบาะแสหรือขอคำปรึกษาได้ที่เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ข่าวฯ - นครบาล” ซึ่งเป็น เฟซบุ๊ก ของ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาต่อไป