ข่าว

รวบ "สาวไทย" ร่วม "มาเลเซีย" ขนยาไอซ์ 250 กก.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กองปราบฯ" เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุม "คนไทย" ร่วมขบวนการเครือข่ายชาวมาเลเซียขนยาไอซ์ 250 กิโลกรัม

 

               สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 17.00 น. ต่อเนื่องวันที่ 24 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 09.30 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมบูรณาการกำลังทำการจับกุมชาวมาเลเซีย จำนวน 21 คน ที่ได้ร่วมกันขนยาไอซ์ รวมจำนวน 250 กิโลกรัม ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมบนขบวนรถด่วนบัตเตอร์เวิร์ธขบวนที่ 35 กรุงเทพ - บัตเตอร์เวิร์ธ ระหว่าง จ.ราชบุรี - จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งต่อมา ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด

 

 

 

               ทั้งนี้ จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการในการขนยาเสพติดในครั้งนี้อีก ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับและศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ กลุ่มผู้ร่วมขบวนการ โดยมีคนไทยร่วมเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย

               จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย , พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. , พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ , พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5 บก.ป. โดยการปฏิบัติการของ พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ , พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ , พ.ต.ท.วิศิษฎ์ ศรียาภัย , พ.ต.ต.พงษ์พิทักษ์ บุญบำรุง , พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ สว.กก.5 บก.ป. พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการตรวจค้นจับกุมกลุ่มคนไทยที่มีหมายจับที่ร่วมขบวนการกับกลุ่มชาวมาเลเซียขนยาไอซ์ดังกล่าว

               โดยผลการปฏิบัติ สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน คือ 1. นายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมา พักอยู่ใน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 23/2559 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2559 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ หรือ เมทแอมเฟตามีน , เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน" จับกุมได้ที่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ ริมถนนเชียงใหม่ - ดอยสะเก็ด หมู่ 11 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

 

 

 

               2. น.ส.บี (นามสมมติ) สัญชาติ ไทย บ้านอยู่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 142/2559 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2559 โดยกล่าวหาว่า “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 329/2 ม.7 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

               ทั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมีส่วนร่วมกระทำความผิด ร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวมาเลเชีย จำนวน 21 คน ที่ร่วมกันขนยาไอซ์ จำนวน 250 กิโลกรัม และถูกทำการจับกุมได้ โดยนายเอจะทำหน้าที่ขนยาเสพติดมามอบให้กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 21 คน ที่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของ น.ส.บี นั้น เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร เงินค่าขนยาเสพติด จำนวน 1 ล้านบาท

               เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้น และทำการตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคารเอาไว้ เพื่อทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยในชั้นจับกุม นายเอ และ น.ส.บี ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

 

 

 

ป. ลุยสระบุรีพร้อมให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อเด็กหญิงวัย 12 ถูก 5 โจ๋รุมโทรม

 

               พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.) เปิดเผยกับ “เนชั่นทีวี” ว่า ขณะนี้ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ให้เข้าคลี่คลายคดีรุมโทรมเด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่จังหวัดสระบุรี ทั้งนี้ ได้ส่งชุดสืบสวนกองปราบฯ ลงพื้นที่ จ.สระบุรี พร้อมกับประสานงาน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ในคดีว่ามีความล่าช้า หรือตัดขัดอะไรบ้าง โดยทางพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า คดีไม่ติดขัดอะไร การสอบสวนดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ต้องสอบตามกระบวนการ “สหวิชาชีพ”

               ทั้งนี้ ชุดสืบสวนของกองปราบฯ ยังคงลงพื้นที่หาข่าวต่อไป ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า คดีที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือมีการข่มขู่เหยื่อผู้เสียหาย โดยคดีนี้ได้ปล่อยให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป แต่ทั้งนี้ ชุดสืบสวนของกองปราบฯ ยังคงอยู่ในพื้นที่ต่อไป เพื่อให้คดีดำเนินไปตามกระบวนการ หากบิดาหรือครอบครัวของเด็กหญิงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้ทันที

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ