ข่าว

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นาวิน ต้าร์" ยุติศึกคดีจอดรถใส่เบรกหาดบางแสน หลังคู่กรณียอมรับผิดว่า สร้างเรื่อง เขียนข้อความแปะหน้ารถ ก่อนถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล ดาราหนุ่มเตือนสติคิดก่อนโพสต์

 

               จากกรณีนักแสดงหนุ่ม นายนาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์ พร้อมด้วยภรรยาสาว น้ำหวาน หรือ นางพัสวี พยัคฆบุตร ถูกคู่กรณีสามีภรรยาคู่หนึ่งโพสต์ข้อความพาดพิง หลังสามีภรรยาคู่นั้นได้จอดรถใส่เบรกมือขวางรถของนักแสดงชื่อดังที่หาดบางแสน ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงการกระทำของสาวคนดังกล่าว เนื่องจากทำผิดแล้วยังไปกล่าวหาผู้อื่นอีก ขณะที่ทางนักแสดงชื่อดังยืนยันว่า ไม่ได้เขียน แต่อาจเป็นเพื่อนกลุ่มที่มาด้วยกันเขียนแปะไว้หน้ารถ ต่อมา นาวิน ต้าร์ และภรรยา ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อเอาผิดเจ้าของเฟซบุ๊ก 2 ราย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

 

 

 

               ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2561 ที่ สน.บางเขน นายนาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์ ได้เดินทางมาพร้อมภรรยาสาว น้ำหวาน หรือ นางพัสวี พยัคฆบุตร รวมถึงคู่กรณีประกอบด้วย น.ส.ชรินทร แสงทอง อายุ 22 ปี เจ้าของสเตตัสเฟซบุ๊กดังกล่าว นายจุฬาวิทย์ บุญหอม อายุ 19 ปี ผู้โพสต์แสดงความคิดเห็นในสเตตัส และเป็นแฟนของ น.ส.ชรินทร น.ส.กัญญารัชย์ อยู่คง อายุ 30 ปี พี่สาวของ น.ส.ชรินทร ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ด้วย และทนายความของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมี พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เจ้าของคดี ร่วมในขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ ฝ่ายคู่กรณีของนายนาวินได้หิ้วกระเช้าดอกไม้เข้าขอขมา และขอเจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจากสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป โดยใช้เวลาในการพูดคุยไกล่เกลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง

               น.ส.ชรินทร ขอยอมรับผิดทุกอย่าง เรื่องทั้งหมดทาง นาวิน ต้าร์ และภรรยา ไม่เกี่ยวข้องเลย พร้อมกับขอโทษที่ทำให้เสียเวลาและเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ กระดาษข้อความที่แปะข้างรถตน ที่มีข้อความว่า “ทำไมจอดรถได้เลวขนาดนี้คะ ที่บ้านไม่มีใครอบรมสั่งสอนหรือไง” ซึ่งปรากฏเป็นข้อความในโลกออนไลน์นั้น ทางฝ่าย นาวิน ต้าร์ ไม่ได้เขียน แต่ตนเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง เพื่อโยนความผิดให้ทางฝ่าย นาวิน ต้าร์ เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้น จึงต้องกราบขอโทษด้วย ทั้งนี้ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับ นาวิน ต้าร์ และภรรยา น้ำหวาน แต่อย่างใด

 

 

 

               นายจุฬาวิทย์ กล่าวว่า ข้อความที่เขียนว่าจอดรถแค่ 30 นาทีนั้น ตนก็เขียนขึ้นมาเอง ความจริงตอนนั้นจอดรถอยู่ 2 ชั่วโมง จึงต้องขอโทษที่ทำให้ทาง นาวิน ต้าร์ เดือดร้อน และไม่รู้เรื่องด้วย ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา เสียชื่อเสียง และทำให้คนในโลกออนไลน์เข้าใจผิด จึงขอรับผิดทุกอย่าง

               น.ส.กัญญารัชย์ กล่าวว่า ขอโทษอีกฝ่ายด้วย เรื่องทั้งหมดเกิดจากการฟังความข้างเดียว ตนเข้าข้างคนผิดไปแล้ว ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาและเสียหาย ขอโทษทุกๆ ด้าน ขอโทษที่ทำให้เสียหายหลายๆ ทาง อยากฝากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับตัวเองด้วย

               นาวิน ต้าร์ กล่าวว่า ตนกับภรรยาได้รับการนัดหมายจากอีกฝ่ายให้เดินทางมาฟังคำขอโทษ ตนก็มารับฟังคำขอโทษ หลังจากฟังคำขอโทษโดยไม่มีเงื่อนไขจากทั้งสามแล้ว ตนจึงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะดำเนินคดีต่อ ก็ได้ให้ทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดการยุติคดี ซึ่งตนก็ขอให้อภัยด้วย อีกทั้งอายุของคู่กรณีก็ไล่เลี่ยกับลูกศิษย์ ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่ทำอะไรโดยขาดวุฒิภาวะ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเอาความกันต่อไป และอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่จะโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ เพราะเป็นการเข้าข่ายความผิด

               นาวิน ต้าร์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ทางทนายความตนไม่ได้แจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนก็เคารพการตัดสินใจของทางทนายความ สำหรับสาเหตุที่มาแจ้งความเพราะเจอข้อความในโลกออนไลน์ว่า อย่าให้เจอตัว ตนเห็นแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีลูกเล็กๆ จึงดำเนินการเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ ทั้งนี้ การจอดรถขวางเป็นปัญหาของสังคม ตนถือว่ากรณีแบบนี้เป็นเรื่องใจเขาใจเรา ทำอะไรก็ต้องเกรงใจในเพื่อนมนุษย์ และเพื่อนคนไทยด้วยกัน การให้อภัยคือทางออกให้คนได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การให้อภัยจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

 

 

 

               น้ำหวาน กล่าวว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนที่จอดรถขวางและทำให้คนอื่นเดือดร้อน เมื่อฟังน้องๆ ขอโทษจากใจจริงแล้ว ในเมื่อเราอยู่ในสังคมไทยก็ควรให้โอกาส ตนจึงให้โอกาสน้องๆ ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ไม่ให้มีนิสัยแบบเดิมอีก และตนเห็นอีกฝ่ายมีลูกเล็กเหมือนกับพวกตนด้วย ก็พร้อมให้อภัย ทั้งนี้ ที่ตนมาฟังคำขอโทษก็อยากรู้ด้วยว่าใครเขียนข้อความแปะที่รถด้วย

               ทั้งนี้ เงื่อนไขในการยุติคดี ทนายความฝ่ายนายนาวิน ได้เปิดเผยว่า ได้ขอเงื่อนไขกับคู่กรณีทั้ง 3 คน ให้โพสต์ข้อความขอโทษลงเฟซบุ๊ก และลงประกาศทางหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน ส่วนจะเป็นฉบับใดนั้นจะหารือกันอีกครั้ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งหากทำได้ตามเงื่อนไขดังกล่าว ทางคุณนาวิน ต้าร์ ก็จะยอมยุติคดีให้ ส่วนทนายความฝ่ายคู่กรณีได้เปิดเผยว่า ยอมรับเงื่อนไขและจะดำเนินการตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้

               พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางฝ่าย นาวิน ต้าร์ ได้ให้เงื่อนไขอีกฝ่ายว่าต้องโพสต์ข้อความขอโทษ และลงประกาศคำขอโทษในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 3 วัน ส่วนรายละเอียดข้อความและช่วงเวลาลงจะเป็นตอนไหน ทางทนายความทั้งสองฝ่ายจะต้องไปปรึกษากันในเรื่องรายละเอียด จากนั้นถ้าสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวได้แล้ว ทางฝ่าย นาวิน ต้าร์ ถึงจะดำเนินการยุติถอนแจ้งความ คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในการถอนคำร้องทุกข์ในคดีนี้ได้ ทั้งนี้ ในวันนี้จะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน

               ภายหลังการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทางฝ่ายคู่กรณีได้นำกระเช้าดอกไม้ที่มีพวงมาลัยมามอบให้กับทาง นาวิน ต้าร์ และภรรยา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษด้วยความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

คู่กรณี "นาวิน ต้าร์" ยอมรับผิดใส่ร้าย - หมิ่นฯ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ