"หนุ่มวินจยย."ทำร้ายเทศกิจนอนคุก

              3 ธันวาคม 2561  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 12.30 น. พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ควบคุมตัว "นายสกานต์ มั่นคง" อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา กทม. ผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง

              ผู้ต้องหาคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจกรุงเทพมหานคร มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-14 ธ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จ ต้องรอสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก และรอผลวินิจฉัยบาดแผลผู้บาดเจ็บ กับผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

              โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.61 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะ "นายสรศักดิ์ สระอุบล" เจ้าหน้าที่เทศกิจ ประจำเขตวังทองหลาง ปฏิบัติหน้าที่กวดขันจับกุมผู้ขี่รถ จยย. บนทางเท้า (ฟุตบาท) เมื่อมาถึงบริเวณหน้าปั้มแก๊ส ถนนลาดพร้าว ใกล้กับปาก ซ.ลาดพร้าว 79 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ได้พบ รถ จยย. ทะเบียน ลทจ 425 กทม. (รถ จยย.ส่วนบุคคล) ที่มี "นายสกานต์" ผู้ต้องหา ใส่เสื้อวินรับจ้างสีส้ม หมายเลข 4 ติดอยู่ที่เสื้อ กำลังขี่รถลงมาจากทางเท้า

              ดังนั้นจึงได้เรียกหยุดรถแล้วเข้าไปซักถามพร้อมตักเตือน แต่ผู้ต้องหาเกิดความไม่พอใจจึงได้พูดดูหมิ่นผู้กล่าวหาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผู้กล่าวหาจึงได้สอบถามกลับในเรื่องที่ทำกริยาก้าวร้าว แต่ผู้ต้องหาก็ได้ใช้มือทุบที่ไหล่ซ้าย ผู้กล่าวหาถึง 3 ครั้ง แล้วเมื่อผู้กล่าวหาจะนำอุปกรณ์ล็อกดิสเบรกมาล็อกรถ จยย. ผู้ต้องหาจึงได้ชักมีดคัตเตอร์สีเขียว ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วใช้มือขวาจับหมวกกันน็อคจะตีผู้กล่าวหา โดยกระแทกใส่หน้าผู้กล่าวหา 1 ครั้งแต่ผู้กล่าวหาได้ถอยหลบและใช้มือซ้ายยกขึ้นมาป้องไว้ หมวกกันน็อคจึงโดนแขนซ้ายของผู้กล่าวหา

              ซึ่งหลังจากเหตุดังกล่าวแล้วผู้ต้องหายังได้พูดจาดูหมิ่นผู้กล่าวหาอีกเพื่อต้องการจะให้เปิดกุญแจล็อคดิสเบรกดังกล่าว โดยผู้กล่าวหาได้เปิดให้แล้วก็ได้แจ้งเหตุให้ตำรวจจราจร สน.โชคชัย ทราบ ต่อมาตำรวจจราจร จึงเดินทางมายังที่เกิดเหตุผู้ต้องหาก็เริ่มสงบอาการลง ผู้กล่าวหาจึงแจ้งให้ ผู้ต้องหาไปยังสำนักงานเขตวังทองหลางและยึดรถ จยย.ไว้ โดยจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาเป็นเงิน 5,000 บาท  ในข้อหา จอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ.2535 จากนั้นผู้กล่าวหา ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีผู้ต้องหาในความผิดอื่น

              กระทั่งวันที่ 1 ธ.ค.61 เวลา 16.00 น. ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ซึ่งการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้ขี่รถ จยย.บนทางเท้า และนำรถ จยย.ส่วนบุคคลมาใช้ขี่รับจ้างส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นการใช้รถไม่ตรงประเภทที่จดทะเบียนไว้ และยังพบว่าผู้ต้องหาก็ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถ จยย.สาธารณด้วย โดยรถคันดังกล่าวก็ยังขาดต่อภาษีประจำปี และไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 พนักงานสอบสวนจึงแจ้งดำเนินคดี 7 ข้อหา ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่  

               โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง และ ม.140 วรรคแรก  , ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ม.136 , ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ม.391 , ผู้ใดพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรฯ ม.371  ,ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร , ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ , ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ,ใช้รถที่จดทะเบียนแล้ว แต่ยังมิได้เสียภาษีประจำปี สำหรับรถนั้นให้ครบถ้วนถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด และใช้รถโดยไม่จัดทำประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยโดยประกันภัยกับบริษัท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43 (7) ,พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ม.6,21,58,60,64 และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ม.7 และ37 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าปั้มแก๊ส ถ.ลาดพร้าว ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 79 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม.

               ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง 

               ภายหลังการฝากขัง ญาติของนายกานต์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาทขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขัง พร้อมเสนอศาลขอติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กำไลข้อเท้า EM

               อย่างไรก็ตาม "ศาล" พิจารณาแล้วหลักทรัพย์ที่ญาติของผู้ต้องหายื่นนั้นไม่เพียงพอตามวงเงินที่กำหนดไว้ในข้อหาที่ยื่นฝากขัง ดังนั้นจึงให้ยกคำร้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะนำตัว "นายสกานต์" ผู้ต้องหา ไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขังนี้ต่อไป