ข่าว

หนุ่มแบงก์ป่วยโรครุมเร้า จ่อยิงขมับดับพร้อมแม่ยาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มแบงก์ป่วยโรครุมเร้า หวั่นเป็นภาระลูกหลาน ตัดสินใจเขียนจดหมายลาตาย ก่อนใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงขมับตัวเองและแม่ยาย ที่ป่วยชรา เดินเหินไม่ได้ ดับ 2 ศพ


          เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.2561 ร.ต.อ.ขวัญชัย บัวพันธุ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนนนท์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตถูกยิงภายในบ้านเลขที่ 511/425 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สน.บางขุนนนท์,พ.ต.ต.อุบล ปรึกษา สว.สส.สน.บางขุนนนท์ เจ้าหน้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ,แพทย์เวร รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

 

หนุ่มแบงก์ป่วยโรครุมเร้า จ่อยิงขมับดับพร้อมแม่ยาย

 

          ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดียว ชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจสอบบริเวณ ห้องนอนด้านหลัง พบศพ นางอัมรินทร์ สุวรรณากาศ อายุ 68 ปี สวมเสื้อคอกระเช้าสีบานเย็น นุ่งผ้าซิ่นสีบานเย็น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธ ปืน ขนาด9 มม. เข้าที่ศรีษะด้านซ้าย 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ โดยบริเวณด้านข้างยังพบศพ นาย สุวรรณ ปิ่นทอง อายุ 53 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง สวมเสื้อยืนสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่กลางศรีษะด้านขวา 1 นัด เสียชีวิต ทั้งนี้ บริเวณปลายเท้าของ นายสุวรรณ ยังพบอาวุธปืน แม็กกาซีน ยี่ห้อซิก ซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก บนโต๊ะกินข้าวภายในห้องพบจดหมายสั่งเสียจำนวน 2 ฉบับ เขียนด้วยลายมือ นายสุวรรณ เกี่ยวกับสั่งเสียให้จัดการเรื่องการโอนบ้าน และอาการป่วย เจ้าหน้าที่ฯ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 

หนุ่มแบงก์ป่วยโรครุมเร้า จ่อยิงขมับดับพร้อมแม่ยาย     


 

 

          จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่า นางอัมรินทร์ และนายสุวรรณ เป็นแม่ยายและลูกเขยกัน โดยแม่ยายนั้นมีอาการป่วยด้วยโรคชรา ไม่สามารถเดินได้ ส่วนนายสุวรรณ ลูกเขยป่วยด้วยโรคกระดูกทับเส้น มีอาการนิ้วล็อค แขนขาอ่อนแรง กินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวว่าแม่ยายและตนเองจะเป็นภาระให้กับลูกหลาน และครอบครัว จึงได้ปลิดชีวิตแม่ยายและตัวเอง เพื่อไม่เป็นภาระ หากมีอาการป่วยหนักขึ้นจนเป็นภาระกับลูกหลาน
  

หนุ่มแบงก์ป่วยโรครุมเร้า จ่อยิงขมับดับพร้อมแม่ยาย

 

         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ