ข่าว

ออกหมายเรียก "สุรัตน แผ้วเกตุ ไอ้คล้าวควายยิ้ม" พบ พงส.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผกก.คันนายาว ออกหมายเรียก "สุรัตน แผ้วเกตุ ไอ้คล้าวควายยิ้ม 2018" พบ พงส. 4 ธ.ค.นี้ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนเงินในบัญชี 1.6แสนบาท ถอนออกมา 1 แสน ซื้อควาย

 

          จากกรณีทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ กาฬภักดี อายุ 64 ปี นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท  ได้เดินทางไปให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ออกมาเรี่ยไรเงินไถ่ตัวควาย “เจ้าทองคำ” กลับคืนมา ในราคา 100,000 บาท ทั้งที่นายบุญเลิศ เป็นเจ้าของควาย ต้องการจะขายควายให้ศูนย์อนุรักษ์ควายไทย แต่ไม่ได้จะขายควายให้โรงเชือดแต่อย่างใด ซึ่งทนายสงกานต์ มองว่านายสุรัตน์ ทำผิดกฎหมายหลายข้อหาตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

          ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ให้พนักงานสอบสวนฯ ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวกับเรื่องการเงิน โดยขณะนี้พบว่ามีเงินในบัญชีกว่า 60,000 บาท สรุปยอดมีคนบริจาคกว่า 160,000 บาท โดยนายสุรัตน์ ได้ถอนเงินออกมา 100,000 บาท เพื่อนำมาซื้อควาย ส่วนเงินยอดที่เหลือในบัญชียังไม่ได้ถอนไปใช้อย่างอื่น

 

          ดังนั้น ในวันนี้ได้เชิญพยานความเห็นเกี่ยวกับถ้อยคำที่นายสุรัตน์ โพสต์ข้อความ เช่น โพสต์เมื่อวันที่ 17 พ.ย. “เนื่องจากมีคนให้กำลังใจและจะให้การช่วยเหลือเจ้าทองคำ รวมถึงคำว่า “ไถ่ชีวิต” และคำให้สัมภาษณ์ต่างๆ ทางพนักงานสอบสวนได้ถอดถ้อยคำมาเป็นภาษาเขียน มาพิจารณาประกอบกับภาษากาย ที่เขาร้องไห้ ว่าหากคนทั่วๆ ไป จะมีความรู้สึกอย่างไร เป็นเรื่องจริงไหม

 

ออกหมายเรียก "สุรัตน  แผ้วเกตุ ไอ้คล้าวควายยิ้ม" พบ พงส.

 

          พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ได้ประชุมพนักงานสอบสวน และได้พิจารณาออกหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาของนายสุรัตน์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันอังคารที่ 4 ธันวาคม เวลา 10.00 น. เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานของ 2.พ.ร.บ.ฟอกเงิน 3.พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ 4.พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร
 

 

ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมาให้ความเห็น เรื่องพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจในการยึดควายเป็นของกลางนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้  พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า การที่ประชาชนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องรับคำร้องทุกข์ หากพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดและสอบสวนไปตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนมาแล้วเชื่อว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน จึงได้ออกหมายเรียกนายสุรัตน์ ส่วนนักกฎหมาย หรือพี่น้องประชาชนที่ให้ความเห็น บางครั้งไม่รู้ข้อเท็จจริงในสำนวน หากประชาชนรับทราบว่าตัวเองถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด จะต้องมาพบพนักงานสอบสวนต้องมาให้การในรายละเอียดในคดี ว่าผิดถูกอย่างไร และการมาพบ ก็ไม่ต้องประกันตัว มาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วทางพนักงานสอบสวนจะปล่อยตัวไป
 
          ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทางพนักงาน จะเชื่อผู้ที่มากล่าวหาเพียงอย่างเดียว เพราะการสอบสวนคือการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำผิด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นความผิด หรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา

 
          พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าทองคำเป็นของที่นำมาใช้ในการกระทำความผิด ถ้านายสุรัตน์ผิดตามข้อหาฉ้อโกงประชาชน คือเจตนาเรี่ยไร ไม่ได้นำข้อความที่เป็นจริง ไม่พูดว่าใครเป็นเจ้าของ และไม่ได้นำควายไปเชือด เพียงต้องการขายควายให้นายสุรัตน์ เมื่อพี่น้องประชาชนหลงเชื่อก็หลอกเงินมา เงินก็แปลงสภาพไปซื้อควาย ทั้งนี้ถ้าไม่มีเจ้าทองคำ คนก็จะไม่บริจาค และจากข้อความที่โพสต์ได้บอกว่าช่วยเหลือเจ้าทองคำ เขาไม่ได้บอกว่าช่วยเหลือนายสุรัตน์ซื้อควาย คดีนี้นายสุรัตน์ได้เงินมา ก็นำไปซื้อควายตามวัตถุประสงค์ แต่วิธีการที่กระทำไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงที่ผู้กล่าวหาได้กล่าวหา และสอบสวนพยานคือ นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ที่เป็นเจ้าของควาย

 
            “ผมออกหมายเรียกไปแล้ว ก็อยากให้นายสุรัตน์นำหลักฐานมา ไม่ใช่มาถึงบอกว่าผมให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ไม่ขออ้างพยานในชั้นพนักงานสอบสวน คือพี่น้องประชาชนเข้าใจผิด เพราะถ้าคุณให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลก็หมายความว่า คุณไม่ยอมให้พยานหลักฐานอะไรกับพนักงานสอบสวน ถ้าพนักงานสอบสวน ได้พยานหลักฐานอาจพิจารณาสั่งไม่ฟ้องก็ได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่พี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ ผมพร้อมให้ความเป็นธรรมกับนายสุรัตน์” พ.ต.อ.สิงห์ กล่าว

 
          พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวอีกว่า ส่วนควายได้ยึดเป็นของกลาง และยึดเงินจำนวน 100,000 บาท ที่ นาย กอบต. นำมามอบให้ ส่วนเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีก็ได้อายัดไว้ เพราะพิจารณาแล้วน่าเชื่อว่าเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อย่างไรก็ตามในส่วนของของกลางทั้งควายเจ้าทองคำและเงินบริจาคได้รายงานให้ ปปง.ทราบแล้ว ทั้งนี้ได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาพูดคุย เพื่อดำเนินการเรื่องการเก็บรักษาของกลางคือเจ้าทองคำว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

   

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ