ทำแผน 5 โจ๋สายไหม รุมกระทืบ 2 คู่อริสาหัส

          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย.2561 พ.ต.ท.ธนู สุขเสริม รอง ผกก.สอบสวน สน.สายไหม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ได้นำตัว นายจิราชัย มาสะอาด , นายกิตติพรรดิ์ ทองยืน , นายทินกร แสงโชติ , นายปรัชญา เจษฏางกูล และ นายกอล์ฟ (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 17 ปี มาจำลองการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ด้านหน้าสถานีตำรวจสายไหม

          อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายวัยรุ่นชาย 2 คน คือ นายธนภัทร สุขขัง (เฟม) และ นายวรพัฒน์ เหมชะญาติ (คาส) ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร ย่านสายไหม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ก่อนการจำลองเหตุการณ์ ผู้เสียหายทั้ง 2 ประกอบด้วย นายคาส และ นายเฟม ได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา
 

             พ.ต.ท.ธนู สุขเสริม รอง ผกก.สอบสวน สน.สายไหม เปิดเผยว่า  การจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ตั้งแต่การบุกเข้าไปที่บ้านเอื้ออาทรสายไหม ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ขึ้นรถยนต์ และนำตัวไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนเลียบวงแหวนตะวันออก(หนองระแหง) ก่อนจะนำตัวกลับขึ้นรถมาส่งที่บ้านเอื้ออาทรสายไหมอีกครั้ง จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมดได้หลบหนีไป

           "ผู้ต้องหา 4 ใน 5 คน ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมด สำหรับคดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุประมาณ 8 คน ตำรวจจับตัวได้แล้ว 5 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบมาว่า สาเหตุมาจากที่ทั้ง 2 กลุ่ม เกิดความขัดเเย้งกันภายในชุมชน มานานเกือบ 1 ปี และเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน จนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกัน โดยในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้ตั้งวงดื่มสุรา แต่ด้วยความคับแค้นใจที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้ จึงยกพวกเข้าไปหา นายธนภัทร และนายวรพัฒน์ ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรสายไหม จากนั้นจึงใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับ และนำตัวไปลงมือทำร้ายร่างกาย" รอง ผกก.สอบสวน สน.สายไหม กล่าว        

          พ.ต.ท.ธนู กล่าวอีกว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 3 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับ โดยขณะนี้ทราบชื่อหนึ่งราย ส่วนอีก 2 คนยังไม่ทราบชื่อ สำหรับ นายมอส ที่ถูกอ้างว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง และทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงการกล่าวอ้างที่เป็นเพียงแค่คำพูดของผู้ต้องหา ซึ่งยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึง ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น ขณะนี้ทางตำรวจกำลังขยายผลว่านายมอสมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนจริง ก็จะต้องควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
 

           เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืนใจผู้อื่น ส่วนข้อหาพกพาอาวุธปืนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนปลอม ทั้งนี้ หลังจากทำแผนแล้วเสร็จก็จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป โดยทางพนักงานสอบสวนจะไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีไม่ร้ายเเรง และอาวุธปืนที่ใช้ก็เป็นปืนปลอม.