ยึด "เจ้าทองคำ" เป็นของกลางในคดี

 

               วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561  ที่ สวนเศรษฐกิจพอเพียง สน.คันนายาว  นายสุรัตน์ ชื่นพยอม อายุ 59 ปี ได้พา “เจ้าทองคำ” มาด้วยรถกระบะสีขาว ยี่ห้อ ฟอร์ด หมายเลขทะเบียน บท 6409 ชัยนาท มายังโรงเลี้ยงชั่วคราว โดย พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้จัดคอกที่เตรียมไว้สำหรับเลี้ยงม้าเดิมพร้อมกางมุ้งไว้เป็นที่พักให้เจ้าทองคำ ซึ่งเจ้าทองคำเมื่อเห็นสื่อจำนวนมากมีอาการตื่นเล็กน้อย แต่สักพักก็คุ้นชิน ยืนเฉยๆ เจ้าหน้าที่ สน. เอาหญ้าและน้ำมาให้กิน มี ร.ต.อ.จิรชัย ศรชัยประสิทธิ์ รอง สวป.สน.คันนายาว เป็นผู้ดูแลเจ้าทองคำระหว่างที่ถูกยึดเป็นของกลางในคดี

 

 

 

               นายสุรัตน์ ชื่นพยอม กล่าวว่า ตนได้เอาเจ้าทองคำมาเลี้ยงตั้งแต่ปี 60 โดยนายก อบต. นำมาฝากตนเลี้ยง โดยแต่ละเดือนตนจะได้รับค่าเลี้ยงควาย 200 บาทต่อตัว แต่ด้วยบ้านตนอยู่หน้าเขื่อน เมื่อฝนตกน้ำท่วม ไม่เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ทางนายก อบต. จึงเอาไปฝาก นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ให้ดูแลต่อ เดิมเจ้าทองคำชื่อ เก้า แต่ตนดูลักษณะว่าดี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น เจ้าทองคำ ตั้งแต่นั้นมา เขามีอุปนิสัย เชื่อง เลี้ยงง่าย เข้ากับคนได้ดี ถูกคุณลักษณะ คือ หน้ากว้าง เขาใหญ่ ตัวสวย เหมาะไปทำพ่อพันธุ์ที่ดี ราคาพ่อพันธุ์ขณะนี้ก็ราวแสนต้นๆ แต่ถ้าขายโรงเชือดก็แค่ 60,000 บาท แต่ควายลักษณะนี้เขาไม่เอาไปเชือด เขาจะนำไปขยายพันธุ์มากกว่า

               นายสุรัตน์ ชื่นพยอม กล่าวอีกว่า การเคลื่อนย้ายไม่ได้ลำบาก และมาที่นี่ก็มีมุ้ง มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่สบาย อากาศก็คล้ายๆ กัน จึงคิดว่าจะอยู่ได้สบายๆ สำหรับคนในหมู่บ้านไม่มีใครบริจาค แต่มีพูดกันไปเรื่อย ตนนั้นไม่รู้เรื่องคดี อยู่ห่างกันกับ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ไป 10 กิโลเมตร ไม่รู้จริงๆ แต่ก่อนจะมาเห็นเขากอดร้องไห้ ท่าทางรักมาก กว่าจะขึ้นรถได้ก็กอดร้องไห้ และพูดในทำนองห่วงใยกัน

               พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า ข้อหาของ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ประกอบด้วย 1. มาตรา 341 , 343 ฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 3. พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร ปรับไม่เกิน 200 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. พ.ร.บ.การฟอกเงิน ความผิดมูลฐานตาม ม.3 (3) ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               เบื้องต้น ได้ประสานให้ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ เข้ามามอบตัว โดยนำควายหรือเจ้าทองคำที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลางมามอบให้ เนื่องจากมีความผิดฐานฟอกเงินอยู่ด้วย ซึ่งวันนี้ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ยินยอมให้นายก อบต. นำเจ้าทองคำมาไว้ที่ สน.คันนายาว เพื่อยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนตัว นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ทราบว่าวันนี้ยังไม่พร้อมที่จะมาพบพนักงานสอบสวน โดยขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานหาก นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ไม่มาจริง อาจออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปยังภูมิลำเนา หรือไปขอให้ศาลออกหมายจับเลยก็ได้ เนื่องจากความผิดคดีฉ้อโกงประชาชนมีอัตราโทษเกินกว่า 3 ปี และอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะหลบหนี ก็เป็นเหตุที่ให้เจ้าหน้าที่ไปขอออกหมายจับต่อศาลได้

               พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ข้อเท็จจริงจาก นายบุญเลิศ กาฬภักดี อายุ 64 ปี นายก อบต.สุขเดือนห้า ซึ่งเป็นเจ้าของควายที่ได้มาให้การ และมีผู้เสียหายซึ่งจับพิรุธของ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ในหลายประเด็น ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวน ทั้งนี้ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ มีความรักควาย แต่วิธีการที่จะหาเงินมาซื้อควายเป็นเท็จ ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงของนายก อบต. เจ้าของควาย ซึ่งได้มาให้การกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ได้ประสาน ปปง. ให้อายัดบัญชีที่เปิดรับบริจาคเงินดังกล่าวแล้ว พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าประชาชนบริจาคเงินมาเท่าไหร่ ได้ถอนเงินไปเท่าไหร่ และใครพาไปเปิดบัญชีธนาคารหรือไปเปิดบัญชีธนาคารเอง มีคนคิดวางแผนให้หรือไม่ เพื่อให้คลายข้อสงสัยในทุกประเด็น

               นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานสัตวแพทย์เพื่อมาทำการตรวจสุขภาพของเจ้าทองคำว่าแข็งแรงหรือไม่ เนื่องจากเป็นของกลางที่มีชีวิต จะต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ระหว่างที่หาข้อยุติว่าเจ้าทองคำจะอยู่ในความดูแลของใคร