บิ๊กตร.เตือนพา'เด็ก'เข้าโรงแรมวันลอยกระทงติดคุกหัวโต!

 

 

          20 พฤศจิกายน 2561  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "ดร.วิระชัย ทรงเมตตา" ของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความให้ความรู้เรื่องข้อกฎหมายเตือนเหล่าหนุ่มๆน้อยใหญ่ วัยรุ่นวัยคะนอง ที่อาจกระทำความผิดในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง

 

 

          โดย พล.ต.อ.วิระชัย ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า รักเด็กผิดด้วยหรือ..? ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี มักจะมีคดีความผิดเกี่ยวกับเพศและการพรากผู้เยาว์ การอนาจาร เกิดขึ้นจำนวนมาก วันนี้ จะมาไขข้อกฎหมายในเรื่องนี้ให้ทราบกัน..วัยรุ่นฟังทางนี้..ก่อนความรักจะบังเกิดและเลยเถิดเป็นความสัมพันธ์ การคบหาดูใจกับสาววัยเด็กอาจมีปัญหาโดยเฉพาะเด็กสาวที่อายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งกฎหมายไทยได้คุ้มครองไว้อย่างชัดเจน
  

          เนื่องจากว่าเด็กสาวยังไม่โตพอที่จะมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจอาจถูกล่อลวงได้โดยง่าย หรือ ถูกหลอกล่อจากผู้มากประสบการณ์ ถึงแม้ว่าคุณผู้ชายจะรักเด็กมากเพียงใด และแม้ว่าเด็กสาวจะรักคุณมากขนาดไหน... ความรักที่เกิดขึ้นอาจเข้าข่ายคดีพรากผู้เยาว์ก็เป็นได้
 

          หลายคนยังสับสนและยังไม่กระจ่างกับคำว่า "พรากผู้เยาว์" โดยส่วนใหญ่คิดว่า การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่อายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ เท่านั้นถึงจะผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วเพียงแค่คุณโทรชวนเด็กสาวออกมาจากบ้าน โดยที่พ่อ-แม่ไม่รับรู้  เท่านี้คุณก็เข้าข่ายความผิดแล้ว
 

 

 

 

 

          "พรากผู้เยาว์ คือ การนำเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ไปจากพ่อ-แม่ หรือผู้ปกครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเจตนาส่อพาไปทำอนาจาร หรือ ล่วงละเมิดทางเพศถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะยินยอมก็ตาม ซึ่งการกระทำที่ส่อเข้าข่ายความผิด เช่น แค่โทรชวนออกจากบ้านพาไปลวนลามก็เข้าข่ายความผิดแล้ว แต่ถ้าโทรชวนไปดูหนังทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่เจตนาจะลวนลามหรือทำอนาจารอันนี้ก็ไม่ผิด ส่วนการจับมือถือแขนกันสามารถตีความได้หลายความหมายไม่ขอฟันธงว่าผิดไม่ผิด แต่หลักๆ ที่ผิดชัดเจนคือมีเพศสัมพันธ์กัน" 

 

 

          คราวนี้มาดูความผิดคดีฐานพรากผู้เยาว์กันบ้างว่ามีโทษหนักขนาดไหน 1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี มีโทษจำคุก 3-5 ปี ปรับ 60,000-100,000 บาท ถ้าหากำไรหรืออนาจาร จำคุก 5-20 ปี ปรับ 100,000-400,000 บาท 2.พรากเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เด็กไม่เต็มใจ จำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท ถ้าหากำไรหรืออนาจาร จำคุก 3-15 ปี ปรับ 60,000-300,000 บาท และ 3.พรากเด็กอายุ 15-18 ปี เด็กเต็มใจ จำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท
 

          คดี"พรากผู้เยาว์" นั้นเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดินถ้าแจ้งความแล้วไม่สามารถยอมความได้ ถึงแม้จะตกลงไกล่เกลี่ยกันได้แล้วก็ตาม ยังคงต้องรับโทษอยู่ดี ส่วนการล่อลวงหญิงสาวหรือเด็กสาว ไปเพื่อการกระทำชำเรา มีความผิดหนักเบาขึ้นอยู่กับอายุของเด็กหญิงที่ถูกกระทำ  มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  277-279 หากเด็กมีอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จะมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ ตั้งแต่ 80,000-400,000 บาท  (ม.277 ว.แรก) ถ้าหากเด็กสาวอายุต่ำกว่า 13 ปีจะมีโทษจำคุก 7-20 ปี ปรับ ตั้งแต่ 140,000-400,000 หรือจำคุกตลอดชีวิต (ม.277 ว.3) หากได้ร่วมกันกระทำตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในลักษณะการโทรมหญิง หรือกระทำกับเด็กชาย และเด็กนั้นไม่ยินยอม จะมีโทษ จำคุกตลอดชีวิต  (ม.277 ว.4)

 

 

 

          การล่อลวงไปเพื่อการอนาจาร มีความผิด หากเด็กอายุเกินกว่า 15 ปี โดยข่มขู่ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลอื่น  มีโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท (ม.278 )  และหากกระทำกับเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มีความผิด จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน  200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ( ม.279 ว.แรก)  แต่ถ้าหากเป็นการกระทำที่มีการข่มขู่ด้วยประการใดๆ หรือใช้กำลังประทุษร้าย  โทษก็จะหนักขึ้น โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  (ม.279 ว.ท้าย)
 

          ทั้งนี้ความผิดต่อส่วนตัวเด็กก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนความผิดของผู้ปกครองก็อีกส่วนหนึ่ง ผู้ที่ล่อลวงเด็กหญิง ไปเพื่อการกระทำชำเราหรือกระทำอนาจารก็จะต้องรับโทษในความผิดฐานพรากผู้เยาว์อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นความผิดที่มีต่อผู้ปกครองของเด็กๆ เหล่านั้น โทษมีอัตราโทษที่สูง จำคุกตั้งแต่  3-15 ปี ปรับตั้งแต่  60,000-300,000 บาท ( ม.317)  เลยทีเดียว
 

          ความรักเป็นสิ่งสวยงามไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความรัก หากชายหญิงรักกันจริงต้องทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีและกฎหมายบ้านเมือง เมื่อรักแล้วต้องรอได้ ยอมได้ เข้าใจได้ อย่าชิงสุกก่อนห่าม ไม่เช่นนั้นสิ่งที่สวยงามอาจทำร้ายทำลายคุณไม่ว่าจะเป็นคนรักหรือคนที่หวังดีที่อยู่รอบกายคุณ 
 

          รักเด็กได้ไม่ผิด ไม่มีใครว่า แต่อยู่ที่เจตนาและการกระทำเท่านั้นเอง #วิระชัยไขข้อกฎหมาย