โจรออนไลน์..ภัยใกล้ตัวยุค4.0!!

 

          ความทันสมัยทางเทคโนโลยีในสังคมโลกยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะระบบอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมต่อโครงข่ายการสื่อสารบนโลกกว้างมาอยู่บนสมาร์ทโฟน ทุกวันนี้ “โซเชียลมีเดีย” เสมือนหนึ่งเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำรงชีวิตไปแล้ว ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก ทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ฯลฯ แม้จะอยู่คนละซีกโลกก็ไม่เป็นอุปสรรคในการติดต่อสื่อสาร หรือเจรจาทำธุรกิจ มีความสะดวก รวดเร็ว ทำให้เกิด “ธุรกิจออนไลน์” และพ่อค้าแม่ขายในไทยจำนวนไม่น้อยเลือกช่องทางนี้ในการทำมาหากิน 

 

 

 

 

          แต่เหมือนเป็นสัจธรรม เพราะความทันสมัย สะดวกสบายของโซเชียลมีเดีย จึงทำให้เหล่า “มิจฉาชีพ” ที่มีพัฒนาการตามเทคโนโลยีเป็น “โจรออนไลน์” ออกอุบายต่างๆ นานา ใช้ช่องทางเหล่านี้หากินสร้างความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ถือเป็นภัยใกล้ตัวยุค 4.0 ! ซึ่งปรากฏเป็นข่าว มีเรื่องราวเตือนภัย เตือนสติให้ทุกคนได้ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะเหล่านักธุรกิจออนไลน์ หรือแม้แต่ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะ “โจรออนไลน์” มีทั้งผู้ซื้อและคนขาย เกิดเป็นคดีอาญา จับได้ก็เยอะ ยังลอยนวลสร้างความเดือดร้อนอยู่ก็ไม่ใช่น้อย 

 

          เฉกเช่นเรื่องราวที่เพิ่งเกิดกับหนุ่มดีกรีปริญญาโทจากเมืองนอก ที่ใช้ความรู้มาหากินในทางที่ผิด โดยเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 โดย พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ และ พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 ร่วมแถลงผลการจับกุม นายธนายุต วิระยะวงศ์ อายุ 32 ปี ที่มีโปรไฟล์จบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ แต่ตกเป็นผู้ต้องหาสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือโดยการ “ปลอมสลิปโอนเงิน” หรือข้อความแจ้งเตือนปลอมว่าได้ชำระเงินให้แก่ผู้เสียหายแล้ว

 

 

 

 

          พ.ต.อ.สมบูรณ์ แจกแจงที่มาของการจับโจรโปรไฟล์ดีรายนี้ว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.แพรวพรรณ พากเพียร ที่เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ว่า ได้มีผู้ชายสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหัวเว่ย รุ่นพี 20 โปร จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 20,000 บาท โดยติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ Viray@work และใช้หมายเลขโทรศัพท์ 09-9142-4561 หลังจากตกลงซื้อขายกันได้ส่งข้อความหลอกลวงว่าได้โอนเงินให้แก่ผู้เสียหายแล้ว โดยใช้วิธีการส่งข้อความเข้าไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านผู้เสียหาย และให้ทางร้านส่งสินค้าไปให้ปลายทาง ซึ่งมารู้ในภายหลังว่าถูกหลอก กระทั่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สปพ. ได้ติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหาคือ นายธนายุต จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน

 

 

 

          ทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั่วไป และใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในการติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยให้ทางร้านค้าผู้เสียหายส่งเลขบัญชีธนาคารมาให้ จากนั้นก็ทำสลิปการโอนเงินปลอม ด้วยการแก้ไขตัวเลขผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงข้อความชำระเงินปลอมผ่านโทรศัพท์มือถือถึงร้านค้าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะให้พนักงานส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ติดต่อมารับสินค้าที่ร้านผู้เสียหาย เมื่อได้ของก็นำไปขายต่อกับร้านจำหน่ายโทรศัพท์ที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางนา ส่วนเงินที่ได้มาจากการก่อเหตุ ถูกนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เลือกร้านโทรศัพท์มือถือทั่วไป และเลือกซื้อสินค้าที่ราคาไม่สูงมาก เพื่อลดการตรวจสอบการชำระเงิน
ถือเป็นความสะดวกที่มาพร้อมภัยฉ้อโกง ผู้ขายควรเช็กยอดเงินในบัญชี อย่าดูแค่สลิปและข้อความแจ้งเตือน เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย..!!