ตร.ภาค1 แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรม

 

             เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารเอนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รรท.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง รรท.รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รรท.รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รรท.รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม “พิทักษ์ภัยให้ประชาชน 2561” ระหว่างวันที่ 2-12 พ.ย.61 พร้อมของกลางจำนวนมาก

 

 

 

 

 

             สืบเนื่องจากมีคำสั่งปฏิบัติการตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2561 “พิทักษ์ภัยให้ประชาชน 2561” โดยกำหนดให้ทุกหน่วย ระดมกวาดล้างอาชญากรรม คดีความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท และหมายจับคดีค้างเก่า ตั้งแต่วันที่ 2-12 พฤศจิกายน 2561 ขึ้น จึงได้มีหนังสือสั่งการที่ 0016.13(ปป)/5766 ลง 1 พฤศจิกายน 2561 ให้ตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค1 และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมคดีความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท และหมายจับคดีค้างเก่า เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยแก่สังคม และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

 

 

 

 

             ตำรวจภูธรภาค 1 สามารถจับกุมมีผลการระดมกวาดล้างดังนี้ ได้จับกุมอาวุธปืน 184 ราย ผู้ต้องหา 184 คน ยึดของกลางได้ อาวุธปืน 184 กระบอก แบ่งเป็นมีทะเบียน 26 กระบอก ไม่มีทะเบียน 158 กระบอก กระสุน 1,122 นัด จับกุมยาเสพติด 372 ราย ผู้ต้องหา 379 คน ยึดของกลางยาบ้า 363,509 เม็ด ไอซ์ 725.715 กรัม กัญชา 324.81 กรัม ยาเค 1,363 ขวด พืชกระท่อม 940 ใบ จับกุมการพนัน 209 ราย ผู้ต้องหา 466 คนหมายจับค้างเก่า 271 คดี ผู้ต้องหา 269 คน

 

 

 

 

             นอกจากนี้มีคดีที่น่าสนใจคือได้ร่วมกันจับกุม นายสิริโชค หรือ ฟิวส์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี นายพีระณัฐ หรือ ก๊อบ นิธิจงสวัสดิ์ อายุ 27 ปี นายนันทวัชร์ หรือ ขิง ภูไชย อายุ 23 ปี ชาวจ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลซ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม จำนวน 1 คัน บัญชีธนาคารจำนวน 2 เล่ม อุปกรณ์ที่ใช้ในการขโมยจักรยานยนต์

 

 

 

 

 

             ด้าน พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีรถจักรยานยนต์ได้ถูกลักขโมยเป็นจำนวนมากในพื้นที่ย่านคลอง 5 โดยรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็นรถมีราคา ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถจักรยานยนต์ที่ตรงกับเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายไปจอดทิ้งไว้หน้าหอพักของมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี จากนั้นในช่วงคาบเกี่ยวเวลาประมาณ 02.30 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 2 คน ได้เข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสืบสวนกระทั่งทราบว่า คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่หมู่บ้านธราดล ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นที่บ้านดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย

 

 

 

 

             จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวมาเป็นเวลานาน โดยจะรับคำสั่งจากหัวหน้าในการขโมยรถจักรยานยนต์ เมื่อได้มาแล้วก็จะนำไปขายในราคา 15,000 บาท โดยหัวหน้าจะนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้านในราคา 22,000 บาท ซึ่งในเงิน 15,000 บาท ที่ขายได้นั้นก็จะนำเงินมาแบ่งกัน 3 คน และออกไปเที่ยวเตร่ สำหรับรถจักรยานยนต์ที่เลือกขโมยนั้นจะเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีราคาค่อนข้างแพง และต้องเป็นรถที่ไม่ได้ล็อคคอไว้ ซึ่งจะเลือกก่อเหตุในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามตัวการที่ทำหน้าที่ในการออกคำสั่ง