รวบ "นอมินี" เปิดร้านอาหารเกาหลี

 

              เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 2561 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. แถลงข่าวจับกุมบริษัทที่ดำเนินกิจการในลักษณะเป็นนอมินีให้กับบุคคลต่างด้าว

              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้รับการร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบ กรณีที่มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีคนไทยเป็นหุ้นส่วน เพื่อให้สามารถทำการจัดตั้งบริษัทได้โดยไม่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับ แต่แท้จริงแล้วคนไทยที่เป็นหุ้นส่วนดังกล่าวกลับมิได้มีส่วนรู้เห็นในการร่วมลงทุน ดูแลบริหาร หรือได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด เกรงว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทยและเศรษฐกิจในประเทศ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 14 และ 19 นำโดย พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง เข้าตรวจสอบในกรณีดังกล่าว

 

 

 

 

              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เข้าตรวจสอบบริษัท นิว จอง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อยู่ที่ 593/158 ถนนประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นร้านอาหารเกาหลี จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีกรรมการบริษัทจำนวนทั้งหมด 5 คน คือนางจอง จี ซุก ชาวเกาหลีใต้ ถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 48.99 % นายโช ฮยอน ซอล ชาวเกาหลีใต้ ถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 0.005% นางโซุน ฮก ชาวเกาหลีใต้ ถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 0.005% น.ส.ณิชานันท์ พันธุ์ควณิชย์ ถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 30% และ น.ส.ธนาวรรณ ดิลกโกมล ถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 21% จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ากรรมการบริษัทผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการบริหาร จัดการธุรกิจร้านอาหาร และไม่ได้รับผลประโยชน์หรือกำไรที่มาจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว แต่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น ในอัตราส่วนจำนวนมาก ก็เพื่อให้สามารถจัดตั้งบริษัทได้โดยไม่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะ “นอมินี” โดยถือหุ้นแทนให้กับบุคคลต่างด้าว อันเป็นความผิดตาม มาตรา 36 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 อัตราโทษจาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท - 1 ล้านบาท หรือท้ังจำทั้งปรับ

 

 

 

 

 

              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมกับบก.ทท. และเจ้าหน้าที่ตารวจ สน.ห้วยขวาง ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริษัท นิว จอง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดดังกล่าว คือนางจอง จี ซุก นายโช ฮยอน ซอล ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสญัชาติไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมกันประกอบธรุกจิ ของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบ ธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ส่วน น.ส.ณิชานันท์ พันธุ์ควณิชย์ และ น.ส.ธนาวรรณ ดิลกโกมล จับกุมในข้อหาเป็นผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็น ธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัดเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป