ข่าว

คืบหน้าคดีเหตุทะเลาะวิวาทยิงปืนข่มขู่ลูกชายร้านข้าวต้มเจ้นัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คืบหน้าคดีเหตุทะเลาะวิวาทยิงปืนข่มขู่ลูกชายร้านข้าวต้มเจ้นัน

 

วันที่  23 ตุลาคม 2561 2561  ที่ สภ.กำแพงแสน  จากกรณี  นายนันทวัฒน์  อ่อนศรี  แจ้งความร้องทุกข์ต่อ  พ.ต.อ.ศุภเกียรติ  เทิดตระกูล  ผกก.สภ.กำแพงแสน  และ พ.ต.ท.สมจิตร  ยศหนองทุ่ม  พนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน  ให้ดำเนินคดีกับ  นายพัศพงษ์  อู่ตะเภา  ที่ใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้กล่าวหา   เมื่อวันที่  16  สิงหาคม 2561  เวลาประมาณ  02.30 น. ที่ผ่านมา นั้น


]ล่าสุดนายพัศพงษ์  อู่ตะเภา  อายุ  38  ปี  บ้านเลขที่  159  หมู่ 2 ต.บ้านยาง อ.เมืองนครปฐม  จ.นครปฐม  ผู้ต้องหาได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน  จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าได้กระทำผิด  คือเมื่อวันที่  16  สิงหาคม 2561  เวลาประมาณ  02.30 น.  ผู้ห้องหา บังอาจใช้อาวุธปืน ไม่ทราบขนาด ยิงใส่นายนันทวัฒน์  ผู้กล่าวหาจำนวน 1 นัด  แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้กล่าวหาซึ่งผู้ต้องหาประสงค์ต่อผลและย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนซึ่งเป็นอาวุธปืนร้ายแรงนั้นจะถูกผู้กล่าวหาถึงแก่ความตาย  ผู้กล่าวหาได้รับความเสียหาย 
 พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายพัศพงษ์  อู่ตะเภา  คือ พยามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง  หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ  โดยไม่ได้รับอนุญาต  และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในหมู่บ้านเมืองหรือที่ชุมชน  หลังจากนั้น  นายพัศพงษ์  อู่ตะเภา  ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว  ในวงเงิน  100,000.-  บาท  และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดนครปฐมในวันที่  24  ตุลาคม 2561  
 สำหรับนายจักรินทร์  ศิลาประเสริฐ  อายุ  43  ปี  บ้านเลขที่  59  หมู่ 7 ต.ทัพหลวง  อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม  ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน  จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดให้ทราบคือ  เมื่อวันที่  16 สิงหาคม 2561  ผู้ต้องหา  มีอาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อ และขนาด  และได้พกพาอาวุธปืนดังกล่าวไปบริเวณร้านอาหารนันดี  ซึ่งเป็นที่ทางสาธารณะ  และได้ชักอาวุธปืนดังกล่าวออกมาในการห้ามปรามเหตุมีปากเสียงทำร้ายร่างกายกัน  และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า  กระทำความผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต  และไม่เหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์  นายจักรินทร์  ศิลาประเสริฐ    รับทราบและเข้าใจข้อกล่าวดีแล้วโดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  และแจ้งว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น
นายปุณมนัส  เทียนทอง  เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน  และเป็นพยานว่าตนเองได้ห้ามปรามเท่านั้น  และไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด
สำหรับนายเก่งกล้า  พรหมชาติ  อายุ  30 ปี  บ้านเลขที่  104  หมู่ 5 ต.หนองดินแดง  อ.เมือง จ.นครปฐม  ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย  โดยใช้เท้าเตะ  แต่นายเก่งกล้า  ได้ถูกหมายจับเมื่อปลายเดือนกันยายน 2561  ในคดียาเสพติด  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำจังหวัดนครปฐมต่อไป

 


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องต่อสื่อว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีล่าช้า นั้น  พ.ต.ท.สมจิตร  ยศหนองทุ่ม  พนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน  เจ้าของคดี  แจ้งกับทางผู้สื่อข่าวว่า  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามกับทางผู้เสียหายมาโดยตลอด  และแจ้งให้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล  และนำผลทางแพทย์เพื่อมาประกอบสำนวนคดี  เพื่อจะได้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีนั้น  แต่ผู้เสียหายไม่ได้ไปพบแพทย์ตามหมายนัด  จึงไม่มีหลักฐานมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เลยทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายได้  จึงทำให้เกิดความล่าช้าตามที่เป็นข่าว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ