"บิ๊กโจ๊ก" แถลงจับแก๊งปลอมหวยตระเวนขึ้นเงิน พบก่อเหตุนาน 15 ปี เจ้าของร้านหวยสูญเงินนับล้านบาท
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. และ รอง ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อม พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รรท.ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง รรท.ผบช.ทท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กก.2บก.ทท.1 ร่วมจับกุม นายสิทธิกร ผูกกระแส อายุ 50 ปี น.ส.ปวริศา วงศ์อุ้ย อายุ 42 ปี ได้ที่ย่านมีนบุรี นางหนู พิมพ์พันธ์ อายุ 65 ปี และนายเชิด เถื่อนวิถี อายุ 51 ปี จับได้ย่านบางพลี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา ร่วมกันปลอมแปลงเองสารสิทธิหรือเอกสารราชการ โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ(ใช้ปลอมแปลงคิวอาร์โค้ด), เครื่องปริ๊น, สลากกินแบ่งรัฐบาลจริงที่นำมาเตรียมทำเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอม, สมุดบัญชีเงินฝาก 8 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายและหญิง ได้ก่อเหตุด้วยการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอมไปขึ้นเงินรางวัลกับร้านค้าที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจวบคีรีขันธ์ สิงห์บุรี ชลบุรี และสมุทรปราการ และมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นสลากจริง จึงรับขึ้นเงินเอาไว้ เมื่อร้านค้าที่เป็นผู้เสียหายนำสลากไปขึ้นเงินกับทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็จะถูกปฏิเสธการจ่ายเงินรางวัลเนื่องจากตรวจพบว่าเป็นสลากปลอม สร้างความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งทราบว่า นายสิทธิกร เป็นหัวหน้าเครือข่าย โดยคนร้ายกลุ่มนี้จะแก้ไขตัวเลขบนสลากให้ตรงกับตัวเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้นๆ แล้วนำไปหลอกขึ้นรางวัล โดยจะเน้นเป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว, 2 ตัว และรางวัลที่ 4 และรางวัลที่ 5 โดยหลังจากที่สลากกินแบ่งรัฐบาลประจำงวดนั้นๆ ออก หากพบว่าสลากที่ซื้อมาไม่ถูกรางวัล หรือมีสลากที่ใกล้เคียงกับรางวัลที่ออก ก็จะนำสลากของจริงมาแก้ไข 3 จุด คือขูดตัวเลขออก และนำตัวเลขใหม่มาใส่ลงไป เปลี่ยนตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ก่อนจะเปลี่ยนคิวอาร์โค้ดเพื่อความแนบเนียน โดยคนร้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุมานานกว่า 15 ปี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า ทั้งนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามหากมีผู้เสียหายที่เคยถูกหลอกเช่นนี้ สามารถแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง