ข่าว

"แก๊งอาก้า"กราดยิงแก๊งโต๊ะสนุกเกอร์วืดประกัน !

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ตั้ม ตึกแดง-เพื่อนร่วมก๊วน 4 คน"นอนเรือนจำ ศาลชี้พฤติการณ์ร้ายแรง ปล่อยกลัวหนีหลังตร.ยื่นฝากขังคดีพยายามฆ่าผู้อื่นฯ-พ.ร.บ..อาวุธปืนฯ 5 ข้อหา ควงปืนยิงถล่ม

 

             10 ตุลาคม 2561 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก   ร.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็งมณี พนักงานสอบสวนสน.พญาไท ได้ควบคุมตัว "นายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล" อายุ 28 ปี หรือฉายา ตั้ม ตึกแดง

 

             "นายประมุข จันท์เสนานนท์" หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี , "นายสมชาย แซ่ปัง" หรือปัง อายุ 35 ปี , "นายธัชกร พรภักดี" หรือบลู อายุ 48 ปี และ "นายภิรมเวศน์ อภินรชาติ" หรือหนึ่ง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 9 ต.ค.61 คดีร่วมกันนำอาวุธปืนกระสุน กราดยิงคู่อริกลุ่มโต๊ะสนุกเกอร์ย่านประตูน้ำ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -21 ต.ค.นี้

 

              เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบสวนพยานบุคคลอีก 30 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์มือประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรกับรายงานชันสูตรพลิกศพผู้ตาย จากโรงพยาบาลตำรวจและรายงานชันสูตรบาดแผลจากโรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลจุฬาฯ รวมทั้งผลการตรวจของกลางจากกองพิสูจน์หลักฐานด้วย โดยแยกสำนวนฝากขังผู้ต้องหาทั้งห้า เป็น 5 สำนวน พร้อมคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง กับขณะนี้ก็กำลังติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอื่นที่ศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้แล้วมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปด้วย

 

              โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.20 น.กลุ่มของผู้ต้องหา กับกลุ่มโต๊ะสนุกเกอร์ซึ่งตั้งอยู่กลางแจ้งเป็นเต็นท์ผ้าใบ ได้พูดคุยปรับความเข้าใจกรณีที่ผ่านของนายพรเทพ พุ่มพวง หรือเพชร ,นายหนุ่ม กระต่ายทอง หรือหนุ่ม,นายศรราม ภูผลผัน หรือโจ และนายยา ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง กับพวกที่พักอาศัยอยู่ย่านประตูน้ำบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีปัญหากัน

 

              โดยนำโพยทายผลพนันฟุตบอลมาวางที่โต๊ะสนุกเกอร์ของกลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้ซึ่งกำลังดูแลให้ลูกค้ามาแทงการพนัน แล้วเกิดความวุ่นวายรบกวนลูกค้าที่มาใช้บริการโต๊ะสนุกเกอร์จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มของนายพรเทพ แล้วพูดจาท้าทายกันและไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป จนกระทั่งกลุ่มของผู้ต้องหาได้โทรศัพท์เรียกพรรคพวกให้มาสมทบอีกประมาณ 19 คน ซึ่งพากันเดินไปยังบ้านพักของนายพรเทพ ที่อยู่ห่างจากโต๊ะสนุกเกอร์ประมาณ 400 เมตร เพื่อพูดคุยแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้

 

              ซึ่งระหว่างนั้นก็ท้าทายให้ไปพบกัน กลุ่มของนายพรเทพจึงเดินตามออกไป จากนั้นวันที่ 7 ต.ค.เวลา 21.30 น.กลุ่มผู้ต้องหาและกลุ่มของนายพรเทพก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน จนเป็นเหตุให้นายพรเทพได้รับบาดเจ็บ , ถูกยิงที่ฝ่ามือซ้ายจนกระดูกแตก และนายทักษิณ สุขเอียด ถูกยิงที่บริเวณลูกอัณฑะทะลุก้น ขณะที่เชื่อว่าลูกกระสุนที่มาจากฝ่ายของนายพรเทพ ได้พลาดไปถูกนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย กระสุนเข้าที่หน้าท้องเสียชีวิต และยังมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียกับชาวลาวอีก 1 คน ซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

             ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา นายปรีชาหรือตั้ม ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.พญาไท และได้รับมอบตัว นายประมุข หรือเบิร์ด  , นายสมชาย หรือปัง , นายธัชกร หรือบลู ผู้ต้องหาตามหมายจับและจับกุมนายภิรมเวศน์ หรือหนึ่ง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท แล้วแจ้งกล่าวหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , ร่วมกันชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปและบุคคลหนึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการกระทำนั้นหรือไม่ ได้ถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 294,299 และร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองฯ

 

              โดยไม่มีเหตุสมควร มาตรา 371 และมีอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในที่ชุมชนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 , 8 ทวิ , 72 วรรคหนึ่ง , 72 ทวิ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 80 โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งห้าให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

 

              ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

 

              ต่อมา "ญาติผู้ต้องหา" ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 60,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ทั้ง 5 ราย ระหว่างฝากขัง ซึ่งเป็นการยื่นหลักทรัพย์ตามเกณฑ์ร้อยละ 20 จากวงเงินเต็มที่ศาลกำหนดหลักทรัพย์การยื่นประกันตัวข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นฯ อยู่ที่จำนวน 300,000 บาท พร้อมกับความสมัครใจของผู้ต้องหาเองที่ยินยอมจะติดอุปกรณ์ EM หรือ กำไลข้อเท้าระหว่างประกันตัว 

 

              แต่อย่างไรก็ตาม  "ศาล" ได้พิเคราะห์คำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนยังสอบพยานบุคคลไม่แล้วเสร็จและคัดค้านการประกัน ในชั้นนี้หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงได้ยกคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งห้า 

 

              ภายหลังศาลยกคำร้องขอประกันตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปคุมขังระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ