ตร.คุม "ตั้ม" ทำแผนคดียิงอริกลางกรุง !!

 

              จากกรณีเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทใช้อาวุธสงครามยิงใส่กันจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ที่บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ซอยราชปรารภ 2 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พื้นที่สน.พญาไท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ต.ค. เบื้องต้นชุดสืบสวนพบสาเหตุเกิดจากการทะเลาะของกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นกับวัยรุ่นถิ่นอื่นที่มาเล่นสนุ้กเกอร์ โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไว้แล้วประกอบด้วย นายพรเทพ พุ่มพวง ฝั่งเจ้าถิ่น ส่วนฝั่งต่างถิ่นที่ถูกจับกุมแล้วคือ นายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล และที่มามอบตัวเพิ่มอีก 4 คนประกอบด้วย นายประมุข หรือ เบิร์ด จันท์เสนานนท์ นายสมชาย หรือ ปัง แซ่ปัง นายภิรมย์เวศน์ หรือ หนึ่ง อภินรชาติ นายธัชกร หรือบลู พรภักดี ทั้งนี้ยังเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีและโดนออกหมายจับแล้วประกอบด้วยนายบำเพ็ญ พุ่มพวง พ่อของนายพรเทพเจ้าของปืนอาก้า นายเกษม รุณไพรัชน์ นายศรราม ภูพลผัน นายหนุ่ย กระต่ายทอง และนายขวัญ ทองดี นั้น

 

 

 

 

 

              เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ต.ค. 2561 ที่สน.พญาไท พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รองผบช.น. พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี สว.(สอบสวน) สน.พญาไท ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ร่วมกันควบคุมตัวนายปรีชา หรือ ตั้ม ศักดิ์อุดมไพศาล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหากลุ่มชุมชนตึกแดงก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคู่อริ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุบริเวณลานจอดรถหลังห้างสรรพสินค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ซอยราชปรารภ 2 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ใช้เวลาในการชี้จุดประกอบคำรับสารภาพประมาณ 45 นาที

 

 

 

 

              ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายปรีชามาชี้จุดเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยจุดที่หนึ่งบริเวณโต๊ะสนุ้กเกอร์ที่ตนเองเป็นผู้ดูแล ก่อนที่นายยาซึ่งอยู่กลุ่มเจ้าถิ่นจะเดินออกมาหาเรื่องนายปรีชาที่โต๊ะสนุ้กเกอร์ จุดที่สองนายปรีชาได้ชี้จุดเส้นทางเดินไปยังบ้านนายพรเทพโดยผ่านหน้าร้านอาหารครัวประตูน้ำก่อนจะถึงบ้านนายพรเทพ จุดที่สามนายปรีชาได้ไปหยุดยืนตะโกนที่หน้าบ้านของนายพรเทพเพื่อถามว่ามีใครอยู่หรือไม่ซึ่งทางนายพระเทพได้ตะโกนสวนออกมาว่า “ให้ไปรอที่ลานกว้าง กูลูกผู้ชายพอ ไม่ใช่ตุ๊ด” จุดที่สี่ชี้จุดเส้นทางเดินออกจากบ้านนายพรเทพเพื่อกลับไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ข้างโต๊ะสนุ้กเกอร์ จุดที่ห้านำชี้จุดที่นายปรีชาเดินมาสั่งกับข้าวที่ร้านครัวประตูน้ำประมาณ 6-7 คน เพื่อไปกินงานวันเกิดและเห็นกลุ่มนายพรเทพยืนอยู่ที่หัวโค้งพร้อมทั้งกวักมือเรียกให้นายปรีชาเข้าไปหา ก่อนจะมีเสียงปืนดังออกมาจากกลุ่มของนายพรเทพ จึงได้ใช้อาวุธที่พกติดตัวมายิงสวนกลับไปเพื่อป้องกันตัว จุดที่หกนำชี้จุดที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียถูกยิงเสียชีวิตซึ่งอยู่บริเวณร้านน้ำชาหลังจุดที่นายปรีชาหลบอยู่ จุดที่เจ็ดนำชี้จุดที่นายปรีชาไปเปลี่ยนกระสุนและเอาปืนอีกกระบอกที่ซ่อนอยู่ใต้ตู้เก็บของที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างโต๊ะสนุ้กเกอร์และโทรศัพท์บอกให้นายธัชกรหรือบลู นำอาวุธที่ทิ้งไว้ที่ต้นโพธิ์หน้าโต๊ะสนุ้กเกอร์ไปเก็บ จุดที่แปดนายปรีชาได้วิ่งหลบหนีออกทางด้านหลังโต๊ะสนุ้กเกอร์ไปยังปากซอยราชปรารภ 4 และถูกกลุ่มของนายพรเทพยิงมาจากทางด้านกำแพงโรงแรมพีเจวอเตอร์เกท ซอยร่วมใจ ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุไป หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายปรีชาไปฝากขังยังศาลอาญาผัดแรกและค้านการประกันตัว

 

 

 

 

 

              พล.ต.ต.คัชชา กล่าวว่า วันนี้ควบคุมตัวนายปรีชา หรือตั้ม ศักดิ์อุดมไพศาล มาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 8 จุด ตั้งแต่จุดที่นายยาเข้าไปโต๊ะสนุ้กเกอร์ เพื่อไปหาเรื่อง จุดที่เอาปืนออกมา จุดเอาปืนไปซ่อน จุดสั่งก๋วยเตี๋ยว จุดเดินไปเจรจาก่อนนายปรีชาจะโดนยิงออกมา ฯลฯ ทั้งนี้นายปรีชาบอกว่าก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกระทบกระทั่งบาดหมางกันมาก่อน สะสมมาเรื่อยๆ โดยต้องการที่จะตกลงว่าอย่ามายุ่งกัน โดยโต๊ะสนุ้กเกอร์ดังกล่าวเป็นของลูกพี่นายปรีชา ที่ชื่อนายประมุขหรือ เบิร์ด จันท์เสนานนท์ อายุ 34 ปี ส่วนอาวุธปืนลูกโม่.38 นายปรีชารับว่าซื้ออาวุธปืนดังกล่าวมานานแล้ว และเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน จากคำให้การของนายปรีชาอ้างว่าทางกลุ่มของนายพรเทพ หรือเพชร เป็นผู้เปิดฉากยิงก่อน ส่วนที่นายปรีชาขอเข้ามอบตัวเนื่องจากต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตัวเองต้องป้องกันตัว ไม่ได้เป็นตัวต้นเหตุที่จุดชนวน

 

 

 

 

              พล.ต.ต.คัชชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคดีนี้มีกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 25 คน ออกหมายจับไปแล้ว 11 หมาย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนชาวอินเดียที่เสียชีวิตจากการสอบถามแพทย์ผู้ที่ทำการชันสูตรพลิกศพทราบว่าเป็นกระสุนแรงดันต่ำ ที่ไม่ใช่อาวุธสงคราม ส่วนนายบำเพ็ญ หรือม๊อก พุ่มพวง อายุ 44 ปี ขณะนี้ยังไม่ติดต่อประสานเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัว สำหรับนายบำเพ็ญ มีประวัติเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2540ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และเมื่อปี 2542 ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในท้องที่ สน.พญาไท ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ส่วนการเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้า 12 จุด ผลการตรวจค้นพบเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จำนวน 2 ชุด ของนายสมชาย หรือ ปัง แซ่ปัง และนายธัชกร หรือบลู พรภักดี

 

 

 

 

              รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหาที่อยู่ในกลุ่มนายปรีชาหรือตั้ม ศักดิ์อุดมไพศาล เดินทางเข้ามอบตัวเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (9 ต.ค.) จำนวน 4 คน ประกอบด้วยนายประมุข หรือ เบิร์ด จันท์เสนานนท์ นายสมชาย หรือ ปัง แซ่ปัง นายภิรมย์เวศน์ หรือ หนึ่ง อภินรชาติ นายธัชกร หรือบลู พรภักดี ทางเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ให้การภาคเสธ โดยรับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนยิง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ,เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”