รองผบ.ตร.ตรวจที่เกิดเหตุอาก้าถล่มกรุง !!

 

             จากกรณีตำรวจ สน.พญาไท รับแจ้งเหตุต่างชาติถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า เซ็นธารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย สาเหตุเกิดจากการทะเลาะกันของ 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มเจ้าถิ่นที่อาศัยในละแวกนี้ และกลุ่มคนนอกจากถื่นอื่นที่มาเล่นสนุกเกอร์ภายในซอยดังกล่าว โดยทั้งสองกลุ่มเคยมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้ ทำให้ต่างชาติที่มานั่งดื่มน้ำชารอขึ้นรถบัสของกรุ๊ปทัวร์ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 7 ตุลาคมนั้น

 

 

 

             เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ต.ค. 2561 ที่ห้องประชุมฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 ได้เรียกฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท เข้าประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงกลุ่มคู่อริ บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯเพื่อคลี่คลายคดีและวางแนวทางการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง

             พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบจากรพ.เสียชีวิต 1 เป็นชาวอินเดีย บาดเจ็บ 4 คน ทั้งสองกลุ่มมีปัญหากระทบกระทั่งกันมาก่อน ทางการสืบสวนขอให้ตรวจสอบก่อนแต่เบื้องต้นทราบว่ามีเรื่องกันแต่จะมีเรื่องกันขนาดไหนยังอยู่ระหว่างสืบสวน ส่วนอาวุธปืนต้องรอทางพฐ.ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นอาวุธชนิดไหนอย่างไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการยืนยันตรวจสอบละเอียดอีกครั้ง ส่วนเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบเป็นกลุ่มบุคคลในพื้นที่ ส่วนการออกหมายจับอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน

 

 

 

 

             ต่อมาเวลา 11.00 น. ทางพล.ต.ท.สิทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวน สน.พญาไท และทีมคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นเวลา 11.45 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ได้ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุทั้งหมดจำนวน 4 จุด ประกอบด้วย 1.โต๊ะสนุ๊กเกอร์ไม่มีชื่อร้านตั้งอยู่ในลานจอดรถทัวร์ 2.เต๊นท์ของร้านขายน้ำชา 3.ตู้อลูมิเนียมหน้าร้านอาหารครัวประตูน้ำ และ4.ตรอกทางเดินไปทะลุซอยร่วมใจทั้งนี้ตำรวจเข้าตรวจสอบในจุดแรกคือเต๊นท์ร้านขายน้ำชาพบคราบกองเลือดของชายชาวอินเดียที่บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นได้เดินไปตรวจสอบที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์ที่เป็นจุดเกิดเหตุแรกที่มีเรื่องเขม่นกันของทั้งสองกลุ่ม ต่อมาเดินทางมาตรวจสอบตู้อลูมิเนียมหน้าร้านอาหารที่มีร่องรอยกระสุนปืนภายในพบหัวลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้เข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุสุดท้ายเป็นเส้นทางการก่อเหตุและหลบหนีคือตรอกทางเดินที่ไปทะลุซอยร่วมใจ ซึ่งในจุดดังกล่าวนี้พบปลอกและเศษหัวกระสุนขนาด 7.62 มม. และ 9 มม. ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งนำส่งตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวตนอีกด้วย

             พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาทกันแล้วใช้อาวุธปืนสงคราม ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจและสะเทือนขวัญ อย่างไรก็ตามจะสืบสวนติดตามอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อรวบรวมสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงวัตถุพยานในที่เกิดเหตุทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้

             ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 1 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เป็นคนต่างชาติ 2 คน คือชาวอินเดีย และลาว นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บเป็นคนไทย อีก 2 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ตามให้น้ำหนักไปในเรื่องของการทะเลาะของกลุ่มวัยรุ่น

 

 

 

 

 

             ส่วนทาง นายออย คำเป่ง อายุ 50 ปี พนักงานเก็บเงินห้องน้ำใกล้กับโต๊ะสนุ๊กเกอร์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งดูโทรทัศน์อยู่หน้าทางเข้าบริการห้องน้ำสาธารณะ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง หลังสิ้นเสียงปืนเห็นกลุ่มคนจำนวนมากวิ่งกรูกันผ่านตรอกวิ่งหลบหนีกันไปคนละทาง จากนั้นจึงออกมายืนดูเหตุการณ์พบคนจำนวนมากมายืนมุงดูและจับกลุ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

             ขณะที่นายวันชัย เตชะจงจินตนา อายุ 52 ปี เจ้าของร้านอาหารครัวประตูน้ำ เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้เปิดร้านและมีลูกค้าเป็นไกด์ทัวร์มานั่งกินข้าวอยู่จำนวน 1 โต๊ะ จากนั้นได้เรียกเก็บเงินเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลูกค้าพบเห็นกลุ่มคนเดินมาจำนวนมาก โดยบอกกับตนว่ากลุ่มชายดังกล่าวมีอาวุธปืนมาด้วย ตนและลูกค้าเห็นท่าไม่ดี จึงพากันทิ้งร้านและวิ่งไปหลบที่ห้างสรรพสินค้าก่อนเสียงปืนจะดังขึ้นนับไม่ถ้วน มาทราบภายหลังจากเกิดเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว

             รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ โดยพบปลอกกระสุนของ AK47 เป็นกระสุนขนาด 7.62 มม. โดยอาวุธปืนที่ใช้ยิงได้จะเป็นอาวุธปืนอาก้า และ AK47 นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ลูเกอร์ และปลอกขนาด .38 สเปเชียล โดยพบว่าอาวุธที่ใช้ยิงมีอย่างน้อย 3 กระบอก