ข่าว

เหยื่อสาวตร.ยัดยา-ซ้อมรีดไถ ทวงความยุติธรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" พาเหยื่อสาวถูกตำรวจยัดยา-ซ้อมรีดไถ ถามหาความยุติธรรม หลังเห็นข่าวชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.1 ยัดยาลูกพ่อค้าส้มตำ

 

          ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) - เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.ย. 2561 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคมและทนายความ ได้พานางจินดา ศรีสมัย อายุ 42 ปี เข้าร้องเรียนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ทำร้ายร่างกาย หลังเคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย

 

          นายรณณรงค์ กล่าวว่า มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนว่าถูกตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับกุมยัดยาเสพติดแล้ว 3 ราย ยังไม่นับที่ไปร้องเรียนที่อื่น โดยเรื่องนี้ นางจินดา อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เห็นข่าวคดีพ่อค้าส้มตำ จึงได้เดินทางมาร้องเรียนว่า ตัวเองบริสุทธิ์หลังเคยถูกตำรวจสืบ1 จับกุมในคดียาเสพติด แม้ศาลพิพากษาลงโทษแล้วก็ตาม ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในนครบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริง
 

เหยื่อสาวตร.ยัดยา-ซ้อมรีดไถ ทวงความยุติธรรม

 

          นางจินดา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.55 ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ กับเพื่อน ระหว่างเดินข้ามถนนขึ้นรถได้มีชายฉกรรจ์ 2 คนมาจับขึ้นไปบนรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูเนอร์ สีดำ โดยภายในรถมีชายฉกรรจ์ 2 คน ตนถูกตบหน้าและศีรษะ และถามตนว่ามีของไหม โดยไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ก่อนถูกค้นตัวพาไปที่คอนโดฯของเพื่อน แต่ขึ้นไม่ได้ จากนั้นพาไปที่บ้านแล้วยึดทรัพย์สินมีค่าต่างๆ พร้อมเงินสด 2 หมื่นบาท โดยบอกว่าต้องโดนยึดทรัพย์ เพราะค้ายาเสพติด รวมทั้งต่อรองให้มีเพศสัมพันธ์กับทั้ง 4 คน เพื่อแลกกับการปล่อยกลับบ้านไม่ดำเนินคดี แต่ตนไม่ได้ยินยอม จากนั้นจึงถูกควบคุมตัวไปที่ กก.สส.บก.น.1 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมือซ้อม ทั้งตบและเตะ นอกจากนี้ยังมีตำรวจคนหนึ่งให้ตนหาเงินมาให้ 2 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยตนมีอาชีพขายไก่ 5 ดาว ขายรถ ขายที่ดิน ทำให้มีเงินเข้าออกบัญชีเกือบ 1 ล้านบาท และเมื่อตำรวจทราบ เพราะเห็นสมุดบัญชี ตนจึงชี้แจงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว

 

          นางจินดา กล่าวอีกว่า หลังจากที่ไม่หาเงินมาให้ ตำรวจก็เริ่มทำคดี โดยแจ้งว่าพบของกลางยาเสพติด จำนวน 2 กรัม และให้ชี้ผงสีขาวโดยไม่รู้ว่าถูกจับคดียาเสพติด ทั้งนี้เมื่อตนปฏิเสธว่ายาเสพติดดังกล่าวไม่ใช่ของตน จึงถูกแจ้งเพิ่มเป็น 7 กรัม จากนั้นตำรวจได้พานั่งรถแท็กซี่มาเอารถที่จอดไว้ พร้อมทั้งเอาหินทุบกระจก เอากุญแจที่อยู่ในกระเป๋าขับรถนำตนมาส่งดำเนินคดีที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ จากนั้นก็ขับรถตนไป
 

เหยื่อสาวตร.ยัดยา-ซ้อมรีดไถ ทวงความยุติธรรม

 

          สำหรับในด้านคดีนั้น ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุก 3 ปี 9 เดือน ข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ซึ่งตนก็ให้การปฏิเสธทั้งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล หลังจากออกจากคุก เมื่อวันที่ 1 ต.ค.59 ก็ไปอยู่ที่มาเลเซีย พอเห็นข่าวคดีพ่อค้าส้มตำถูกตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับยัดยาเสพติด และมีการเรียกรับเงิน ก็พบว่ามีตำรวจ 2 นายอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับที่จับกุมตน จุดประสงค์ที่ร้องเรียน เพราะต้องการให้รู้ว่า ตำรวจบางคนมีพฤติกรรมไม่ดีมาก่อนหน้านี้ ตอนถูกจับเป็นคนไทยก็หาว่าเป็นเวียดนาม สามารถตรวจสอบได้ว่าในครอบครัวไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับคดียาเสพติด 
 

          นายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวศาลพิพากษาว่าผิดและลงโทษ แต่มีประเด็นเรื่องการซ้อมทรมานผู้ต้องหา ระหว่างการควบคุมตัว ดังนั้น ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าได้ซ้อมทรมานผู้ต้องหาหรือไม่ เรื่องค้ายาเสพติด ศาลบอกว่า เขาขายเขาติดคุกเรื่องค้ายา ต้องแยกกันคนละส่วนกัน โดยผู้ร้องมีหลักฐานภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วย.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ