"บิ๊กโจ๊ก" โต้เลือกปฏิบัติ ยันจับไม่เว้น !!

              ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล เดินทางไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตน ว่า ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.สันธนะ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนเรื่องอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีปราบปรามการพนันในสนามม้านั้น ยืนยันว่าดำเนินการอย่างจริงจังตามที่ได้รับมอบหมาย ที่ผ่านมามีสถิติการจับกุมชัดเจน เพราะตั้งแต่ตนเข้าไปดำเนินการก็มีรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นตัวชี้วัดได้อยู่แล้ว และยืนยันว่าการทำงานของชุดทำงานของตนไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าตนละเว้นการปฏิบัติจริงๆ สถิติการจับกุมและรายได้ต้องลดลง ทั้งนี้ชุดทำงานไม่ได้ดำเนินการจับกุมเฉพาะในสนามเท่านั้น แต่เรายังจับกุมผู้ที่เล่นทางออนไลน์อีกด้วย

              รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า การแจ้งความดำเนินคดีกับตนก็เป็นสิทธิ์ที่เขาสามารถทำได้ การแจ้งความน่าจะเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ตนมองเรื่องของส่วนรวมมากกว่าเพราะตำรวจเป็นบุคคลสาธารณะต้องพร้อมน้อบรับคำวิจารณ์ตลอดเวลา ส่วนจะมีการดำเนินการอย่างไรกับ พ.ต.ท.สันธนะ หรือไม่นั้น ต้องดูว่าการแจ้งความดังกล่าวมีการละเมิดสิทธิ์ส่วนตัว ถ้ามีการดูหมิ่น หรือแจ้งความเท็จ ตนก็ต้องดำเนินการ ก็ต้องปกป้องสิทธิ์

              ส่วนที่ พ.ต.ท.สันธนะ จะนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอไปแจ้งความด้วยตนได้รับรายงานบ้างแล้ว ส่วนที่อ้างว่าตนละเลยการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบครบทุกห้องภายในสนามม้านั้น ยืนยันได้ตรวจสอบแล้วทุกห้องด้วยตนเอง ถ้าตนพบก็จับทันทีแต่หากไม่พบก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ในเรื่องการตรวจสอบตนชัดเจนอยู่แล้ว ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ทั้งนี้การปฏิบัติในส่วนนี้ตนไม่ใช่คนที่เคยเล่นการพนันม้ามาก่อน ตนไม่ได้รู้จักใครในสนามม้าแน่นอนและก็จะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ยิ่งการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร

              "บิ๊กโจ๊ก" เผยดีใจผลโพล ปชช.พอใจการทำงานตำรวจท่องเที่ยว ปัดถูกทาบนั่ง ผบช.

              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) กล่าวว่า รู้สึกดีที่ใจและภูมิใจที่มีผลโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพอใจการทำงานของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสนับสนุนให้ตนเองได้มีตำแหน่งที่สูงขึ้น ซึ่งตนเองไม่ได้ทำงานคนเดียวแต่ทำงานภายใต้ทีมงานด้วยกันทั้งหมด มีการบูรณการร่วมกันทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนการทำงานได้ตามยุทธศาสตร์ในการปราบปรามแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ผ่านมาการทำงานคิดอย่างเดียวว่า” อะไรที่ประชาชนเดือดมากที่สุดก็ต้องทำ ไม่ต้องคิดเยอะ” การทำงานของตำรวจไม่ได้ทำอะไรที่ยาก แต่อะไรเป็นปัญหาเป็นความเดือดร้อนของประชาชนก็ต้องทำ

              ส่วนการสนับสนุนให้ขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น ในอาชีพรับราชการหากได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นก็เป็นความภูมิใจถือเป็นชื่อเสียงของตนเองครอบครัวอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งอะไรก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่น ในการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นความภาคภูมิใจก็อยู่ที่วันนี้เราทำหน้าที่ได้ดีหรือยัง ส่วนการแต่งตั้งระดับนายพลที่จะถึงนี้ ยืนยันว่า ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่ได้มีการทาบทามอะไร ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจมีขั้นตอนมีแนวทางอยู่แล้ว และเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาพิจารณา ตนเองก็ยังทำหน้าที่ตามปกติ

              พร้อมกันนี้ รอง ผบช.ทท. ปฏิเสธไม่ขอตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร ที่มีข่าวว่าวันนี้ไม่สบายและไม่ได้เข้าประชุม ครม.โดยขอให้สอบถามกับโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฯโดยตรง ในส่วนของตนเองเป็นผู้ช่วยโฆษกฯรับผิดชอบงานเรื่องกฎหมาย การปราบปราม และความมั่นคง เท่านั้น