พังครืน !! เจดีย์ยักษ์ทรุดตัวทับคนงานขณะดีดฐานตัวเรือนธาตุขึ้นบูรณะ เจ็บ 11 ราย สาหัสอีก 3 แม่ค้าเผยนาทีระทึกหลังช่างนับ 1-2-3 ปูนแตก ยอดหอระฆังถล่ม
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 25 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุเจดีย์ทับคนงานติดอยู่จำนวนหลายคน ภายในวัดพระยาทำวรวิหาร ซอยอรุณอมรินทร์ 15 ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เบื้องต้นทราบว่าเจดีย์ภายในวัดถล่มลงมาทำให้คนงานติดอยู่ภายในซากปรักหักพังประมาณ 3 คน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าให้ความช่วยเหลือระดมกำลังพร้อมเครื่องมือ เข้าช่วยเหลือคนงานก่อสร้างที่ถูกโครงสร้างหอระฆัง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เจดีย์ยักษ์ ของวัดพระยาทำวรวิหาร เขตบางกอกน้อย ทรุดตัวลงมาทับร่าง ขณะเข้าทำการดีดฐานตัวเรือนธาตุขึ้น เพื่อบูรณะปฏิสังขร ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศิลปากร
จากการตรวจสอบมีคนงานได้รับบาดเจ็บจากการถูกโครงสร้าง และ วัสดุ หล่นทับ 6 คน โดย 5 คน ถูกนำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศิริราชแล้ว 5 คน เหลืออีก 1 คน ถูกโครงสร้างทรุดตัวทับต้นขาไว้ โดยพบว่าโครงสร้างของหอระฆังพบรอยแตกร้าวบริเวณส่วนกลาง ฐานอาคารทรุดเอียง เจ้าหน้าที่จึงต้องทำงานอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อน เพื่อเร่งช่วยเหลือคนงานนำส่งรพ.ศิริราชให้เร็วที่สุด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถช่วยเหลือคนงานก่อสร้างคนสุดท้ายบูรณะหอระฆังออกมาได้ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศิริราช สรุปเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 8 คน สาหัส 3 คน
สำหรับหอระฆังนี้มีบันทึกหลักฐานปรากฏตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แต่ชาวบ้านในพื้นที่คาดว่าอาจถูกสร้างมาก่อนสมัยธนบุรี มีสถาปัตยกรรมก่ออิฐถือปูน ตกแต่งด้วยถ้วยกระเบื้องจีนมีรูปปั้นปฏิมากรรมเป็นยักษ์ 4 ตน ยืนอยู่ด้านละ 1 ตน เหมือนคอยเฝ้ารักษาหอระฆัง ชาวบ้านจึงนิยมเรียนกันว่า เจดีย์ยักษ์ หรือ กุฏิยักษ์ มีขนาดโดยรอบ 10 วา สูง 12 วา 3 ศอก มีคำพูดคล้องจองกันว่า “ยักษ์สี่ตน คนดำดิน ครุฑจับนาคินทร์ คชสารครึ่งตัว” ได้รับการบูรณะในปี 2537 และครั้งนี้มีการเริ่มดำเนินการงานบูรณะหอระฆังวัดพระยาทำเมื่อ 18 พฤษภาคม 2561 กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 22 มกราคม 2562
นางศศกมล เหล่าลดา อายุ 36 ปี แม่ค้าขายก๋วยจั๊บ ด้านหน้าหอระฆัง กล่าวว่า หอระฆังดังกล่าวมีการบูรณะมาประมาณ 3 เดือน มีเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลตลอดทุกวัน โดยเฉพาะวันนี้มีเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่จากกรมศิลปากรมาดูแลการบูรณะตั้งแต่เช้า จนก่อนเที่ยงวันนี้ได้ยินเสียงช่างก่อสร้างส่งเสียงนับ 1 2 3 ยก ก่อนที่จะมีปูนแตกหักโดยยอดหอระฆังหักโค่นลงมาก่อน ตามด้วยปีกครุฑ จากนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือโหยหวน มีคนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากมีอาการสาหัสที่สุดเท่าที่รู้ แขนขาด
ขณะที่ นางบุญสม วาสิกานนท์ อายุ 60 ปี กล่าวว่า เดิมชาวบ้านเรียกต่อๆ กันมาว่า กุฎิยักษ์ หรือเจดีย์ยักษ์ ตอนเกิดเหตุขณะที่นั่งเย็บผ้าอยู่ได้ยินเสียงดังครืน ก่อนที่เจดีย์ยักษ์จะทรุดตัวลงมา ตนตกใจมากจึงรีบไปดู ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงคนงานนับเลขเพื่อทำอะไรบางอย่างให้พร้อมกันอยู่หลายครั้งตั้งแต่ช่วงเช้า ครั้งนี้เป็นการบูรณะใหญ่จะดีดให้สูงขึ้น ตนคิดว่าดินข้างล่างอ่อน ประกอบกับช่วงนี้ในตกทุกวันจึงอาจทำให้ทรุดตัวลงได้
น.ส.กมล พรกมล อายุ 52 ปี กล่าวว่า วันนี้มีการทำพิธีเพื่อจะดีดองค์ยักษ์ขึ้น เพื่อให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันองค์เก่าเดิมจะเอียงอยู่แล้ว คนงานเลยจะต้องทำให้ตรง ประมาณ 06.00 น. ก็มีการทำพิธี เริ่มให้คนงานลงไป โดยใช้สัญลักษณ์โยก 1 โยก 2 โยก 3 ไปถึง โยก 9 เมื่อโยก 9 องค์ก็ตรงแล้ว จากนั้นก็เริ่มทำพิธีดีดขึ้น จาก 1-9 ก็กลายเป็น 1-21 ด้วยความที่ตนกลัวก็คอยมองอยู่เรื่อยๆ ว่าจะรอดไหมจะดีดขึ้นได้ไหม คนงานได้ขุดดินด้านล่าง เพื่อลงไป ก่อนจะใช้เหล็กแซะลงไปขณะเดียวกันความรู้สึกของตนก็กังวลคิดว่าองค์คงไม่อยู่แน่ๆ องค์เก่าตนคงไม่ได้เห็นอีกแล้วก็เลยไปถ่ายภาพไว้ ช่วงประมาณ 09.00 น. เพราะองค์นี้มีอายุกว่า 300 ปี ก็กลับมานั่งสักพักหนึ่งก็ครืนลงมาตรงยอดลงมาโดนครุฑ ครุฑจะมีสี่มุมมันหนักก็ลงมาทั้งยวงเลยทั้งสี่ทิศ แต่คนงานไม่ส่งเสียงร้องเลย ตนกลับตกใจส่งเสียงกรีด ก่อนจะรีบวิ่งไปดูคนงาน เห็นงานคนหนึ่งแขนขาด ถือข้อมือออกมาไม่ร้องสักนิด จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งหัวแตกเดินออกมา แล้วก็มีผู้หญิงอีก 2 คน ตนก็เรียกหารถจยย.ให้รีบไปส่งโรงพยาบาล
“ฉันไม่รู้หรอกคำว่าศักดิ์สิทธิ์มันจริงไหม แต่ฉันรู้อย่างเดียวว่าเจดีย์ยักษ์เก่าแก่ เราเกิดมาเราก็เจอแล้ว ก็นับถือมาโดยตลอด” น.ส.กมล กล่าว
ประวัติ "วัดพระยาทำวรวิหาร" วัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี
"วัดพระยาทำวรวิหาร" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่เลขที่ 47 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงช่างทองหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เดิมเป็นวัดเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาแต่สมัยใด ได้กำหนดอายุจากหลักฐานคือธรรมาสน์บนศาลาการเปรียญว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายเดิมมีชื่อว่า "วัดนาค" เป็นวัดคู่กับ "วัดกลาง" ตั้งอยู่คนละฝั่งคลองมอญ เขตบางกอกน้อย
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดฯ ให้ปฏิสังขรณ์ โดยแบบสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด แล้วสถาปนา เป็นวัดหลวง และเปลี่ยนชื่อจากวัดนาค เป็น วัดพระยาทำ สิ่งสำคัญภายในวัดคือ หอระฆัง หรือเรียกกันติดปากว่า เจดีย์ยักษ์ มีลักษณะทางศิลปกรรมแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 คือเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น ประดับกระเบื้องเคลือบ ส่วนฐานเป็นช่องโค้งแหลมทั้ง 4 ด้าน กรอบของช่องโค้งนี้ มีรูปครุฑเหยียบนาคทั้ง 4 ช่อง ตรงมุมล่างติดพื้นดินมีรูปปั้นยักษ์ยืนประจำทั้งตรง 4 มุม มุมละ 4 ตน ชั้นบนมีรูปปั้นยักษ์ทั้ง 4 ทิศ ยอดหอระฆังทำเป็นทรงปราสาทจากการปฏิสังขรณ์ครั้งแรกเมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หอระฆังแห่งนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมในสมัยรัชกาลที่ 3 และ 5 ตามลำดับ
ข้อมูลจากเจ้าอาวาสวัดพระยาทำวรวิหาร ได้ความว่า หอระฆังแห่งนี้ได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อพุทธศักราช 2537 และเมื่อพุทธศักราช 2555 ทางวัดพระยาทำได้แจ้งมายังกองโบราณคดี ถึงสภาพความชำรุดเสียหายของหอระฆัง เมื่อดำเนินการสำรวจสภาพแล้วพบว่า หอระฆังมีความชำรุดเสื่อมสภาพตั้งแต่ชั้นปูนฉาบจนถึงชั้นโครงสร้างอิฐ และได้รับการถมพื้นที่โดยรอบโดยปิดทับองค์ประกอบชั้นฐานหอระฆังบางส่วน ทำให้โบราณสถานสูญเสียคุณค่าในด้านสถาปัตยกรรม
---------------
(เครดิต กู้ภัย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง