ข่าว

'ด.ต.'แจ้งความ'พิธีกร-พ่อค้าส้มตำ'หมิ่นประมาท!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ดาบตำรวจ" คู่กรณีพ่อค้าส้มตำ โร่แจ้งความ สน.บางยี่ขัน โวยถูกพิธีกรรายการชื่อดัง ย่านฝั่งธนฯ หมิ่นประมาท

 

               “ดาบตำรวจ” คู่กรณีพ่อค้าส้มตำ คดีลูกสาวถูกยัดยา โร่แจ้งความ สน.บางยี่ขัน โวยถูกพิธีกรรายการชื่อดัง ย่านฝั่งธนฯ และคู่กรณีกล่าวอ้าง และหมิ่นประมาททำให้ถูกเกลียดชัง

 

               เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2561 มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ด.ต.วรพล สันติพิริยาภรณ์ อายุ 48 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ โตไร่ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ให้ดำเนินคดีกับ พิธีกรดำเนินรายการช่องทีวีดิจิตอลชื่อดังย่านฝั่งธน พร้อมพวกอีก 4 ราย

 

               โดยหนึ่งในนั้นมี นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าส้มตำย่านพระราม 6 ในข้อหา “ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา” คดีอาญาที่ 721/61 เหตุเกิดที่สตูดิโอรายการช่องหนึ่ง ย่านฝั่งธน เมื่อวันที่ 17 ก.ย. และ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา

 

               โดยรายละเอียดระบุว่า นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยมีปัญหากับ ด.ต.วรพล เข้าใจว่าตนเป็นผู้ทำร้ายร่างกายลูกชายนายศักดิ์ชัย เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ต่อมานายศักดิ์ชัย และลูกชายได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าเป็นต้นเหตุให้ ด.ต.วรพล ทำการตรวจค้นห้องพักของลูกสาว พร้อมอ้างว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดย ด.ต.รายนี้เป็นผู้กลั่นแกล้ง

 

               ต่อมานายศักดิ์ชัย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับทาง ด.ต.วรพล พร้อมพวก ที่ทำการตรวจค้นในวันดังกล่าว ตามคดีอาญาที่ 1583/2561 ลงวันที่ 10 ก.ย.61 ซึ่งตนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่นายศักดิ์ชัย ได้แจ้งความไว้ดังกล่าวนั้น

 

               ทั้งนี้ ตามบันทึกรายการเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ในรายการดังกล่าว พิธีกรผู้ดำเนินรายการ มีแขกรับเชิญรวมทั้งสิ้น 6 คน ต่อมานายศักดิ์ชัย ได้เดินทางไปชี้จุดที่มีการเรียกเงิน และเอาเงินให้ตำรวจตรงไหน

 

               เมื่อข่าวเผยแพร่ออกไปทำให้ผู้เสียหายอีกหลายรายที่อ้างว่า เจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับพ่อค้าส้มตำ และพูดกันติดปากว่าเป็น “ดาบวรพล” จากข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นการกล่าวอ้างถึงตำรวจที่ชื่อวรพล ตำรวจชุดเดียวกับพ่อค้าส้มตำ ซึ่งการพูดเหล่านั้นสามารถอ้างได้ว่าหมายถึง ดาบตำรวจวรพล โดยทางพิธีกร เป็นผู้ที่ชี้นำ ผู้ดำเนินรายการในการกล่าวอ้าง ตลอดการดำเนินรายการจนจบ

 

               การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้กล่าวหาเป็นที่เกลียดชัง ถูกดูหมิ่น เสียชื่อเสียง จึงขอแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ