คาดเปิดใช้ "อุโมงค์มรณะ" ได้ปลายสัปดาห์นี้

 

             เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 18 ก.ย. 2561 นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ , เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย , ผู้แทน บริษัท อิตาเลียนไทย และผู้แทนบริษัทโกลเด้น นครา ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปรับปรุงอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านโกลเด้น นครา เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร หลังเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ นางสาวภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี นักธุรกิจสาวขับรถกระบะจมน้ำเสียชีวิตเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

 

 

 

             นายธนะสิทธิ์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อสรุปสาเหตุของน้ำที่ท่วมอุโมงค์ พร้อมกับตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อติดตามและเข้าไปแก้ไขปัญหา  โดยสาเหตุเบื้องต้น จากการตรวจสอบยืนยันว่า อุโมงค์ไม่ได้รั่ว แต่เกิดจากรอยรั่วบริเวณท่อเชื่อมระหว่างอุโมงค์ไปยังบ่อซัม ซึ่งอยู่ภายนอกอุโมงค์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถอุดรูรั่วบริเวณนี้ได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะรั่วจากการใช้งานเป็นเวลานาน หรือการดูแลที่เหมาะสมหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

 

 

             ทั้งนี้ในวันพฤหัสบดี หรือวันศุกร์นี้ จะมีการนัดหมายผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และสำนักการโยธา ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของอุโมงค์ หลังมีการซ่อมแซมชั่วคราว และวางระบบป้องกันในอนาคต เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย โดยจะมีไฟฉุกเฉิน มีที่กั้นเขื่อนเสริมความแข็งแรง บริเวณลำรางเลียบทางรถไฟ เพื่อดักน้ำไม่ให้ไหลเข้าอุโมงค์ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต รวมถึงกล้องวงจรปิด และไฟส่องสว่างที่จะต้องใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงมีเครื่องสูบน้ำสำรองไว้รองรับ หากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาหนัก ซึ่งหากตรวจสอบแล้วมีความพร้อมก็จะเปิดให้ใช้อุโมงค์ชั่วคราวได้ปลายสัปดาห์นี้

 

 

 

 

             หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาการซ่อมบำรุงอุโมงค์ถาวร จะเป็นความรับผิดชอบของทางนิติบุคคลของหมู่บ้าน จะเป็นผู้รับผิดชอบการซ่อมบำรุงทั้งหมด

 

 

             ทางด้าน พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้สำนวนแล้วเสร็จไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้ามาตรวจสอบสาเหตุรอยรั่วของอุโมงค์ และสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญก่อน จึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ โดยเบื้องต้นกลุ่มที่จะมีความผิด คือ กลุ่มที่มีหน้าที่ดูแลบำรุงรักษา และซ่อมแซมท่อเชื่อมที่เกิดรอยรั่ว ซึ่งจะเข้าข่ายความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย