ข่าว

ปปป.เล็งเชือด 7 ขรก. เอื้อประโยชน์เลี่ยงภาษีบ.ค้าน้ำมัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปปป. เล็งเชือดเจ้าหน้าที่ศุลกากร-สรรพสามิต รวม 7 ราย ฐานรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ และปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเอื้อประโยชน์ และเลี่ยงภาษีให้บริษัทค้าน้ำมัน

 

          จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมปราบปรามขบวนการโกงภาษีน้ำมัน โดยมีข้าราชกาของรัฐบางราย ทั้งเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการแจ้งความต่อ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.ย.2561 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เป็นประธานการประชุมแผนปราบโกงภาษีน้ำมัน โดยได้ประชุมร่วมกับ 7 หน่วยงานทั้ง ป.ป.ช. ป.ป.ท ปปง. สตง. กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และกองทัพภาคที่ 1. เพื่อประชุมวางแผนในการดำเนินการปราบปรามการโกงภาษีน้ำมัน หลังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ บางรายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และรู้เห็นการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย ทำให้ประเทศเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท ใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง  

 

ปปป.เล็งเชือด 7 ขรก. เอื้อประโยชน์เลี่ยงภาษีบ.ค้าน้ำมัน


          พล.ต.ต.กมล เปิดเผยว่า การปราบโกงภาษีน้ำมัน เริ่มมาจากการจับกุมน้ำมันจำนวน 32,000 ลิตร ได้ใน จ.พิษณุโลก โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้รับสารภาพต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก ว่าน้ำมันจำนวนดังกล่าวได้ซื้อมาจากโรงกลั่น เพื่อส่งออกไปที่ด่านแม่สอด เพื่อส่งไปยังประเทศเมียนมาร์ แต่น้ำมันจำนวนดังกล่าวไม่ได้ออกไปนอกราชอาณาจักรตามที่ได้กล่าวอ้าง แต่ได้นำกลับมาขายที่ จ.พิษณุโลก ดังนั้น น้ำมันดังกล่าวจึงเป็นน้ำมันที่ลักลอบ ไม่ได้มีการเสียภาษี

   
          ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังได้รับสารภาพด้วยว่า ได้นำน้ำมันจำนวนดังกล่าวมาจากโรงกลั่น และได้แอบนำกลับมาขายภายในประเทศ จึงทำให้เกิดความเสียหายขึ้น เพราะเงินที่จะต้องเป็นภาษีของรัฐในแต่ละเที่ยว รัฐจะไม่ได้ภาษีเลย เพราะคนเหล่านี้จะนำน้ำมันในราคาต้นทุนมาขายในประเทศ แล้วเอาส่วนต่างมาเป็นกำไรของตน ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันที่ซื้อน้ำมันมาจากโรงกลั่น หรือพ่อค้า ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.น้ำมันเชื้อเพลิง ซื้อน้ำมันมาเพื่อประสงค์ที่จะส่งไปต่างประเทศ โดยน้ำมันที่จะส่งไปต่างประเทศ ไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต และภาษีมหาดไทย ทั้งนี้ หากต้องเสียภาษีสรรพสามิต จะต้องเสียภาษีลิตรละ 7 บาท ส่วนภาษีมหาดไทยจะต้องเสียภาษีร้อยละ 1 ของภาษีสรรพสามิต โดยน้ำมันทุกลิตรจะต้องเสียภาษีในลักษณะนี้
   

 

ปปป.เล็งเชือด 7 ขรก. เอื้อประโยชน์เลี่ยงภาษีบ.ค้าน้ำมัน

 

          พล.ต.ต.กมล เปิดเผยต่อไปว่า การสืบสวนของชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิง (ปนม.ตร.) พบว่า บริษัทซี. ผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ได้ทำเรื่องขอซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมัน ตามมาตรา 7 ที่มีสิทธิ์ขอยกเว้น หรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 ในจังหวัดชลบุรี โดยมีการอ้างว่า จะนำไปขายต่อให้กับ บริษัทเวียงมิง ในประเทศเมียนมาร์ จากนั้นบริษัทซี. ผู้ค้าได้มอบหมายให้บริษัทขนส่ง ไปรับน้ำมันที่โรงกลั่น เพื่อขนไปส่งที่ชายแดนเมียนมาร์ จังหวัดตาก แต่บริษัทขนส่งแห่งนี้ ได้แวะขายให้กับปั๊มน้ำมันที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 32,000 ลิตร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือ ก็ส่งให้ชายแดนอำเภอเเม่สอด ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ได้กระทำในลักษณะนี้มาแล้วถึง 36 ครั้ง แต่พบหลักฐานยืนยันการกระทำผิดเพียง 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้นมีผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และถูกดำเนินคดีไปแล้ว โดยผู้ต้องหา 4 ราย ศาลได้ตัดสินตามความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ร่วมกันลักลอบขายสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษี ในพ.ศ.2557
  

ปปป.เล็งเชือด 7 ขรก. เอื้อประโยชน์เลี่ยงภาษีบ.ค้าน้ำมัน

 

          พล.ต.ต.กมล เปิดเผยอีกว่า จากการสืบสวนพบว่า ในขั้นตอนการทำเอกสารต้องมีใบรับรองบันทึกร่วมตรวจ ก่อนนำน้ำมันออกจากโรงกลั่น รวมทั้งรับรองว่าน้ำมันได้ถูกส่งออกครบจำนวน ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต และศุลกากร ลงนามรับรอง ดังนั้น ชุดสืบสวนจึงเชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่อาจมีส่วนรู้เห็น และจากเอกสารทั้ง 10 เที่ยวที่พบความผิด มีเจ้าหน้าที่ลงนาม ทางชุด ปนม.ตร.จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดข้าราชการที่ ปปป. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา

   

           เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงนามใบรับรองจำนวน 10 ครั้ง แบ่งเป็น กรมสรรพสามิต 3 คน เจ้าหน้าที่ศุลกากร 4 คน ซึ่งทาง ปปป.จะสอบสวนทั้งหมด เพราะเข้าข่ายความผิด มาตรา 162 เป็นการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ และความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่ โดยหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 6 จุด ทั่วประเทศ ในวันที่ 29 ก.ย. ต่อไป.

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ