ข่าว

เตรียมขออนุมัติหมายจับ 5-6 รายคดีโกงเงินสหกรณ์ตำรวจเลย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เตรียมขออนุมัติหมายจับ 5-6 รายคดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จ.เลย

            เตรียมขออนุมัติหมายจับ 5-6 รายคดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จ.เลย -“จักรทิพย์” ตั้งกรรมการสืบสวนประสาน ปปง.ตรวจเส้นทางเงินตำรวจ 20 นาย  ประสานปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมทั้งเรียกตัวตำรวจทั้ง 20 คนมาช่วยราชการ

               เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 กันยายน ที่ห้องประชุมรามราฆพ สนามม้านางเลิ้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตัวแทนข้าราชการตำรวจใน สังกัด ภ.จว.เลย จำนวน 194 นาย ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ร้องเรียนกรณีได้รับความเสียหายจากโครงการ “บริหารหนี้” ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จ.เลย รวมมูลค่ากว่า 229 ล้านบาทตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะมีการขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อศาลอีกประมาณ 5-6 คน ซึ่งเป็นประชนทั้งหมด และในวันพรุ่งนี้พล.ต..อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเฉพาะข้าราชการตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีเส้นทางการเงินในการรับและโอนเงินไปมา ประมาณ 20 นายโดยเป็นการตรวจสอบของสำนักงาน ปปง. พร้อมทั้งเรียกตัวตำรวจทั้ง 20 คนมาช่วยราชการ วันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกส่วนทั้งในส่วนของผู้เสียหายก็ดี ในส่วนผู้ต้องหาก็ตาม อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้จะต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างรวดเร็วและรอบคอบเพื่อทำให้ความจริงปรากฏอย่างชัดเจน ซึ่งในวันนี้มีการออกหมายจับ รวมไปถึงที่มีการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วทั้งหมด 17 คน เป็นทั้งข้าราชการตำรวจและเจ้าหน้าที่ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นจากนี้ไป 1 เดือนเพื่อให้เพื่อให้ความจริงปรากฏให้เร็วและเป็นธรรมที่สุด

                พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้เมื่อพบพยานหลักฐานชัดเจนแน่นอนอยู่แล้วการเป็นข้าราชการตำรวจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้วเพราะเป็นผู้รักษากฏหมาย ฉะนั้นในวันนี้การให้ความเป็นธรรมและการทำให้ความจริงปรากฏจะทำให้ประชาชนผู้เสียหายรวมถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยมีควมเชื่อมั่นและอุ่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมใรคดีนี้ ที่มีความเสียหาย 1 พันกว่าล้านบาทซึ่งเป็นความเสียหายชองข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย 200 กว่าล้านบาท และประชาชนอีก 7-8 ร้อยล้านบาทซี่งอยู่ในพื้นที่ภาค 4 ส่วนใหญ่ และมีการยึดทรัพย์ไปแล้วประมาณ 140 กว่าล้านบาท ซึ่งตอนนี้พอจะมองเห็นช่องทางในการยึดทรัพย์มาคืนข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชนบ้างไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยก็จะนำเงินมาคืนให้ได้อย่างแน่นอน

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ