ข่าว

"นายทุนเงินกู้ดอกโหด" โดนภาษีย้อนหลัง 10 ปี 430 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ดีเอสไอ" เรียกนายทุนเงินกู้นอกระบบ จ.ชัยภูมิ รับทราบข้อหาเลี่ยงภาษี หลังสอบพบดอกโหด - ยึดโฉนด ส่งสรรพากรประเมินภาษีย้อนหลัง 10 ปี 2 ลอต 430 ล้าน

               21 ส.ค. 61  ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผอ.กองคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อใช้มาตรการทางภาษีดำเนินการทางกฎหมาย ว่า

 

 

 

               เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองคดีภาษี ได้เรียก นางวิไลพร ไทยงาม และนายธเนศ มะลิทอง ซึ่งเป็นนายทุนเงินที่ปล่อยกู้นอกระบบให้กับชาวบ้าน จ.ชัยภูมิ และจังหวัดใกล้เคียง ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร หลังจากสอบสวนพบว่ามีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบให้ชาวบ้าน โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ยังให้ลูกหนี้ลงชื่อในเอกสารเพื่อใช้โฉนดที่ดินและทรัพย์สินต่างๆ เป็นหลักประกันเงินกู้อีกด้วย

               พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้ง 2 มีบัญชีเงินฝากจำนวนหลายสิบบัญชี และได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์มาเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้ทำการซื้อขายหรือเสียค่าตอบแทนใดๆ จึงได้ประสานข้อมูลให้กรมสรรพากรประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับปีภาษี 2550 - 2555 ในลอตแรกรวม 230 ล้านบาท และลอตที่ 2 สำหรับปีภาษี 2556 - ปัจจุบัน อีกประมาณ 200 ล้านบาท ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างส่งให้กรมสรรพากรทำการประเมินการตรวจสอบภาษีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังจากพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนการสอบสวนแล้วเสร็จ ก็ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาภายในเดือน ส.ค. นี้ ส่วนประเด็นความผิดอื่นๆ จะสอบสวนขยายผลต่อไป

 

 

 

               รอง ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้มาตรการทางภาษีเพื่อเอาผิดกับนายทุนเงินกู้นอกระบบนั้นจะมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับนายทุนเงินกู้รายใหญ่ที่ปล่อยกู้นอกระบบ 5 ราย ที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเบื้องต้นตรวจสอบพบบัญชีทรัพย์สินกว่า 22 ล้านบาท และนายทุนเงินกู้ จ.เพชรบูรณ์ อีก 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของรายได้ทั้งหมด รวมทั้งนายทุนฯ ในจังหวัดอื่นๆ โดยทั้งหมดหลังจากรวบรวมบัญชีทรัพย์สินเสร็จแล้วพบว่าเป็นรายได้ที่เกิดจากเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราหรือใช้ช่องว่างทางกฎหมายเอาเปรียบชาวบ้าน ดีเอสไอก็จะส่งหลักฐานเพื่อส่งให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ