ข่าว

ร้อง ปปป.เอาผิด ผู้การกองปราบ บุกจับพระเงินทอนวัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ร้อง ตร.ปปป.เอาผิด ผู้การกองปราบละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หลังบุกจับพระผู้ใหญ่คดีเงินทอนวัด ชี้ตร.ไม่มีสิทธิแจ้งข้อหา ม.157 กับพระ

 

          วันที่ 21 ส.ค. 61 ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับพนักงานสอบสวนบก.ปปป. เพื่อให้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยนำหลักฐานเอกสารมายื่นจำนวน 39 แผ่น

 

          นายจรูญ กล่าวว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.ได้นำกำลังเข้าจับกุมพระสงฆ์หลายรูปในข้อกล่าวหาเงินทอนวัด การใช้เงินผิดประเภท การฟอกเงิน ทั้งได้นำตัวพระสงฆ์เหล่านั้นฝากขังอยู่ในเรือนจำ จนกระทั่งมีการส่งสำนวนคดีสู่ชั้นอัยการ และพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 ได้นำสำนวนคดียื่นฟ้องอดีตพระพรหมดิลก (เอื้อ หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) (นายเอื้อน กลิ่นสาลี) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และอดีตพระอรรถกิจโสภณ อดีตเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา (หรือนายสมทรง อรรถกฤษณ์) เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่พนักงาน , ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม


          ร้อง ปปป.เอาผิด ผู้การกองปราบ บุกจับพระเงินทอนวัด

 

          นายจรูญ กล่าวอีกว่า การปฏิบัติหน้าที่และการเข้าจับกุมพระสงฆ์มีความไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม ป.วิอาญามาตรา 90 และการตั้งข้อหากล่าวหาพระสงฆ์ ในข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ. พ.ศ.2542 มีความไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะว่า พ.ร.บ.การฟอกเงินปี พ.ศ.2542 ได้มีการยกเลิกไปแล้ว ตอนนี้ประกาศใช้ในพ.ศ.2558 ซึ่งใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ระบุว่า ความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ฟอกเงิน คือมาตรา 3 (2) “ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับเพศ ธุระจัดหา ล่อไป พาไป เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เพื่อหากำไร การค้าประเวณี เป็นต้น

 

          นายจรูญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การตั้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด มาตรา 157 นั้น ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากพระสงฆ์ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นการตั้งข้อกล่าวหาเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจเงินแผ่นดิน และการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ว่า รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด ซึ่งการกระทำของพล.ต.ต.ไมตรี เข้าข่ายการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในรูปแบบของการทำลายบุคคลากร หรือศาสนบุคคลของพระพุทธศาสนา และยังเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนชาวไทยอีกด้วย

 

          นายจรูญ กล่าวต่อไปว่า การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาในคดีปลอมพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นความผิดอาญาร้ายแรงไม่ถูกฟ้องและทำให้ได้รับการปล่อยตัวไป ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ