ข่าว

"พิชัย" พบ ปอท. รับทราบข้อหา คดี พ.ร.บ.คอมพ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"พิชัย นริพทะพันธุ์" อดีต รมว.พลังงาน เข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

 

          วันที่ 16 ส.ค.2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)​ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายส่วนตัว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก. ปอท. พนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ของประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนจากที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ร้องทุกข์ 

 

         นายพิชัย กล่าวว่า ประชาชนเคยคัดค้าน พร.บ..คอมพิวเตอร์ฉบับนี้ เพราะกลัวว่าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เล่นงานคู่แข่ง และกับประชาชนที่เห็นต่าง ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องจริง โดยพรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า จะมีนโยบายแก้ไข พ.ร.บ.คอมฯฉบับดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศ มากกว่าจะใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองปิดกั้นเสรีภาพ ทางความคิดเห็น และเป็นการหยุดยั้งความเจริญของประเทศ
 

         ส่วนกรณีที่มีรูปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นปกนิตยสารไทม์ ที่เขียนว่า “สั่งแบนแล้ว ห้ามจำหน่ายในประเทศไทย” นายพิชัย กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนทำเอง แต่มีแฟนคลับส่งมาให้ ตนจึงได้โพสต์ภาพหน้าปกลงในเฟซบุ๊ก ด้วยความสุจริตใจ แต่จริงๆ แล้วตนก็อยากซื้อนิตยสารดังกล่าว ซึ่งตนได้สั่งให้คนไปซื้อในร้านหนังสือชั้นนำในประเทศ แต่ปรากฏว่าไม่มีจำหน่าย จึงเชื่อว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม

 

         นายพิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการสัมมนาของภาคประชาชนเรื่องการดูด 4.0 ที่ได้เชิญตนไปร่วมและพูดถึงการดูด ส.ส. สมัยปัจจุบัน ที่มีความแตกต่างกว่าสมัยก่อน มีการนำคดีความไปขู่เพื่อดูด ซึ่งตนไม่ได้ระบุว่า ผู้ทำเป็นคสช.แต่อย่างใด ทั้งนี้ ภาคประชาชน ห่วงว่าการดูดส.ส. ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น การใช้เงินจำนวนมากซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน จะยิ่งทำให้มีการทุจริตคอรัปชั่นมากยิ่งขึ้นหลังการเลือกตั้ง หากพรรคที่ดูด ส.ส. เข้าไปเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามขอขอบคุณ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน พฤษภา 35 ที่ได้ออกมาปกป้องและชี้แจงแทนตนในเรื่องการสัมนาดังกล่าว
       

 

          "ทั้งนี้ เรื่องการดูดของกลุ่มสามมิตรมองว่าขณะนี้ยังมีการดำเนินการเรื่องการเมือง แต่พรรคการเมืองอื่นไม่สามารถทำได้ ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ รวมถึงการที่ผมถูกออกหมายเรียก 11 ครั้งนั้น ผมเพียงให้ข้อมูลที่เป็นจริงและเป็นประโยชน์กับสังคม ซึ่งรัฐบาลและ คสช. น่าจะนำไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุงการบริหารประเทศมากกว่ามาเสียเวลาเอาผิดผม" นายพิชัย กล่าว 

 

          นอกจากนี้ นายพิชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร พูดถึงการสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคต ว่า เป็นความคิดเห็นของแต่ละคน เพราะใน 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้พูดว่าเศรษฐกิจประเทศไม่ดี จึงได้สะท้อนเสียงนี้ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่ได้ครอบงำแต่อย่างใด 
 

          ทางด้าน นายนรินทร์พงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่นายพิชัยแสดงความคิดเห็นต่างๆ เป็นข้อเท็จจริงโดยสุจริตใจ แต่มองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมือง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม.
  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ