ข่าว

รวบอีก 1 ผู้ต้องหาเอี่ยว "เงินทอนวัด"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจรวบ "เจษฎา" ผู้ต้องหาเอี่ยวเงินทอนวัดลอต 3 หิ้วตัวจากเมืองคอนสอบกองปราบฯ เร่งล่าอีก 2 รายสำคัญ ด้าน "ฐิติราช" ลั่น!! หลักฐานชี้ใครเกี่ยวข้องจับหมด

 

           เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 2561 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้ควบคุมตัว นายเจษฎา วงศ์เมฆ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้านขายเครื่องอิเล็คโทรนิค ชื่อร้าน เจ.เอ.ซีซีทีวี เลขที่ 253/2 ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเปิดจำหน่ายกล้องวงจรปิด กล้องติดรถ จำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย จำหน่ายเครื่องกรองน้ำ และวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 102/2561 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ในความผิดฐาน สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดโดยเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยเจตนาทุจริต หรือโดยทุจริตให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ตาม ม.147,157 ประกอบ 86 ป.อาญา โดยสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บก.ป. เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 2 ส.ค. โดยบรรยากาศช่วงเช้า มีบรรดาสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาปักหลักเฝ้ารอรายงานข่าว

 

 

รวบอีก 1 ผู้ต้องหาเอี่ยว "เงินทอนวัด"

 

 

 

           ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้เดินทางมาติดตามคดี พร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนของขั้นตอนคดีทุจริตเงินทอนวัดนั้น จะช้าเล็กน้อย เนื่องจากมีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องส่งให้ ป.ป.ช. และรอให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องกลับมา แต่ก็มีการประสานงานกันอยู่ ทำให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วกว่าปกติ และเพื่อให้คดีนี้เป็นแบบอย่างให้ผู้ที่คิดจะทุจริตในกระทรวงทบวงกรมอื่นเป็นกรณีศึกษา เจ้าหน้าที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนนายเจษฎาผู้ต้องหาคดีนี้จะมีความเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง ยังไม่ขอเปิดเผย ยืนยันว่าทุกอย่างมีพยานหลักฐานศาลจึงออกหมายจับให้

 

 

รวบอีก 1 ผู้ต้องหาเอี่ยว "เงินทอนวัด"

 

 

           พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตามวันนี้ตนมาประชุมหลายคดีเกี่ยวกับคดีอุกฉกรรจ์ที่ประชาชนให้ความสนใจ เช่น คดีคนร้ายยิงหน้าสถานบันเทิง จ.ระนอง คดียิงที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี รวมถึงคดีน้องหญิงที่เสียชีวิตในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งคดียิงที่ จ.ระนอง กับ จ.ชลบุรี เป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดอื่นมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนกลางจะลงพื้นที่เข้าไปช่วยติดตามตัวคนร้ายด้วย

 

 

 

           ผบช.ก. เปิดเผยอีกว่า คนร้ายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ฝากไปถึงญาติและครอบครัวของคนร้ายให้พามามอบตัวภายใน 7 วัน ส่วนรายละเอียดคดียิงที่เขาชีจรรย์ ตนได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางลงไปช่วยติดตามตัว “เสี่ยอ้วน” มาดำเนินคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยในของส่วนรายละเอียดคดีและภาพจากกล้องวงจรปิดการหลบหนีของคนร้ายได้ ทั้งนี้ได้มีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

 

 

รวบอีก 1 ผู้ต้องหาเอี่ยว "เงินทอนวัด"

 

 

           รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำนายเจษฎาในเบื้องต้น นายเจษฎาให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบประวัตินายเจษฎาพบว่า เป็นผู้กว้างขวางและเป็นเซียนพระใน จ.นครศรีธรรมราช เคยเปิดแผงพระในย่าน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และยังเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุท้องถิ่น เป็นที่รู้จักในชื่อ “ลุงทองส่องพระ” มักจะไปตามวัดต่างๆ และตีสนิทกับพระผู้ใหญ่ เพื่อใช้อ้างตัวในการดำเนินการทุจริต นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์รับเหมาก่อสร้างศาสนสถานในวัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ซึ่งใช้งบหลายล้านบาท โดยนายเจษฎาจะอ้างตนเองว่าเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใหญ่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังคอยเสนอโครงการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในวัด เมื่อได้เงินมาก็จะทุจริตเงินไว้ส่วนหนึ่ง ทำให้ไม่ตรงกับที่ตัวเองเสนอไว้ ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายเจษฎารู้จักกับผู้ใหญ่ใน พศ.จริง และอาจมีการนำเงินส่วนแบ่งไปให้กับทางผู้ที่ติดต่อด้วยใน พศ. จึงเข้าข่ายการฟอกเงิน แต่ในเบื้องต้น บก.ปปป. แจ้งข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป หากมีการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

 

 

รวบอีก 1 ผู้ต้องหาเอี่ยว "เงินทอนวัด"

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ