"บิ๊กโจ๊ก" แถลงผลปิดล้อมตรวจค้นที่พักสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ พบ นทท. Overstay กว่า 70 ราย เผย ประสานข้อมูลจีนจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้แล้วกว่า 200 ราย
3 ส.ค. 61 เมื่อเวลา 01.30 น. ที่ บริเวณลานจอดรถ ทางเข้า RCA ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขว้าง กทม. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. , พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หน่วยอรินทราช 26 , หน่วยสยบไพรี บช.ปส. , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ สน.มักกะสัน ร่วมแถลงข่าวผลระดมปิดล้อมกวาดล้าง ตรวจค้นที่พัก ที่กิน ที่ท่องเที่ยว โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งหมด 75 จุด ทั่วประเทศ ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้เป็นที่พักอาศัยแฝงตัวกระทำความผิด Overstay และหลบหนีเข้าเมือง สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด ได้ทั้งหมด 74 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย ไนจีเรีย เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการปฏิบัติการมาตลอดทั้งวันทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง หัวหิน พัทยา และภูเก็ต เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาญาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต ได้ทั้งหมด 11 ราย สัญชาติ เวียดนาม 2 ราย เมียนมา 2 ราย อังกฤษ 2 ราย ไนจีเรีย 1 ราย ลาว 1 ราย อินเดีย 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งหมด 42 ราย สัญชาติ ลาว 12 ราย อินเดีย 10 ราย เมียนมา 9 ราย กัมพูชา 5 ราย เวียดนาม 2 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย จีน 1 ราย และไนจีเรีย 1 ราย และจับกุมในข้อหาอื่นๆ อีก 20 ราย สัญชาติ ไทย 11 ราย อินเดีย 3 ราย เมียนมา 2 ราย ลาว 2 ราย คาซัคสถาน 1 ราย และเวียดนาม 1 ราย รวมผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมในการปฏิบัติการ 73 ราย จากทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมอีก 1 ราย คือ Mr. Abdelaziz Dahane อายุ 57 ปี สัญชาติ แอลจีเรีย พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าหนังสีดำ ธนบัตรไทย จำนวน 1,020 บาท และเงินสกุลดอลลาร์ฮ่องกง จำนวน 2,680 ดอลลาร์ ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 61 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงภายในขบวนรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีมักกะสัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้าออกประเทศไทย 12 ครั้ง มีการสับเปลี่ยนหนังสือเดินทาง 3 ฉบับ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเชื่อว่าเดินทางเข้ามาเพื่อก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิบัติการ ยุทธการ X-Ray outlaw forelgner เพื่อทลายเครือข่ายชาวต่างชาติที่เข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทยนั้น ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปี แล้ว โดยการใช้วิธีปิดล้อมตรวจค้น กดดัน จับกุม ชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว แต่กลับมาเช่าห้องในพื้นที่กรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพื่อก่อเหตุอาชญากรรม โดยจะเน้นตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวไนจีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุในการก่ออาชญากรรมในลักษณะโรแมนซ์สแกม ซึ่งในปัจจุบันมีชาวไนจีเรียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 400 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบทั้งหมด นอกจากนี้เรายังได้มีการประสานขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย อย่างที่ผ่านมา ได้มีการประสานข้อมูลกับประเทศจีน จนสามารถจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนได้กว่า 200 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจดีเอ็นเอ เก็บลายพิมพ์นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว เพื่อไว้เป็นฐานข้อมูล ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง