ข่าว

"รวบมารศาสนา"อ้างเป็นจนท.สำนักพุทธฯหลอกเงินพระ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กองปราบปราม"รวบมารศาสนาอ้างเป็นจนท.สำนักพุทธฯหลอกพระ อ้างนำเงินมาพัฒนาวัดได้ 7 แสน เรียก 6.5 หมื่นเป็นค่าดำเนินการก่อนเจ้าอาวาสหลงเชื่อ 

 

19 กรกฏาคม 2561 กองปราบรวบมารศาสนาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯหลอกพระ อ้างนำเงินมาพัฒนาวัดได้ 7 แสน เรียก 6.5 หมื่นเป็นค่าดำเนินการก่อนเจ้าอาวาสหลงเชื่อ 

 

 

 

ที่กองปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.อรรถพล  พานประทีป พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์  รอง ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กก.3บก. จับกุมตัว นายอุดร สีพลัง หรือสมศักดิ์ มณีศรี  อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2  หมู่  5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี  ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.78/2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”

   

พ.ต.อ.บุญลือ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้ว เข้าไปอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักพระพุทธศาสนา ตระเวนไปตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมอ้างว่าสามารถจะนำเงินอุดหนุนเพื่อบำรุงวัดและเงินสนับสนุนการพัฒนาวัดได้  แต่ก่อนที่จะได้เงินดังกล่าว ทางวัดหรือเจ้าอาวาสต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการประสานงานติดต่องานกับส่วนกลางเบื้องต้นเสียก่อน  โดยเมื่อประมาณ เดือน พ.ค. 2560 ก็เข้าไปหลอกพระที่วัดกาเกาะ-เสกแอ ต.เทนมีย์ อ.เมืองสุรินทร์ ว่า จะนำงบประมาณช่วยสร้างวัดพัฒนาวัด จำนวน 700,000 บาท เจ้าอาวาส หลงเชื่อ จึงไปถอนเงินค่าดำเนินการให้กับกลุ่มผู้ต้องหาไป จำนวน 65,000 บาท  เมื่อได้เงินแล้ว ก็แยกย้ายกันหลบหนีไป

   

พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สามารถติดตามจับกุม นายประคอง หรือสมศักดิ์ ชิดสวน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 ต.เม็งราย อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หัวหน้าแก๊ง และเพื่อนร่วมแก๊งรวม 4 คน คงเหลือ นายอุดร ที่ยังหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีมากบดานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์  จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้บริเวณหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  

   

จากการตรวจสอบพบว่านายอุดรได้ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ภาคอีสาน มีหมายจับของสภ.ต่างๆในภาคอิสาน ติดตัวรวม  8 หมาย มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ร่วมกระทำความผิดบางคนได้เสียชีวิตไปแล้วก็มี อย่างไรก็ตาม นายอุดร ยอมรับว่าตนเองทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถ และบางครั้งก็เป็นผู้พาพระเข้าไปเบิกเงินจากธนาคารด้วยตัวเอง  จึงนำตัวส่ง สภ.เทนมีย์ จ.สุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ