ข่าว

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปอท. จับหนุ่มมือดีใช้ชื่อ-รูป "นายกฯ" ลงทะเบียนซิมการ์ด 55 หมายเลข ขายชาวต่างชาติ "บิ๊กตู่" สั่งดำเนินการเด็ดขาด ชี้ โทษต่างกรรมต่างวาระ จำคุกสูงสุด 275 ปี

               12 ก.ค. 61  เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)  พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ธนดล แก้วอุบล รอง ผบก.รฟ. ช่วยราชการ รอง ผบก.ปอท. และ ว่าที่ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.1 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาลงทะเบียนซิมโดยใช้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1382/2561 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 61 พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไม่มียี่ห้อสีดำ จำนวน 1 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ โมโตโรลา สีดำ จำนวน 1 เครื่อง , ซิมการ์ด เครือข่ายทรูมูฟ จำนวน 12 ซิม และ เราเตอร์ หัวเว่ย สีขาว 1 เครื่อง

 

 

 

               พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจ ปอท. ได้รับแจ้งจากบริษัท เรียล มูฟ จำกัด ผู้ให้บริการเครือข่ายทรูมูฟว่าตรวจสอบพบความผิดปกติในการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงิน โดยพบว่าในช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค. 61 มีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์โดยใช้รูปภาพบัตรประชาชนและรูปหน้าตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 55 หมายเลข ซึ่งอาจมีการนำหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดอื่นๆ ได้ ทาง กก.1 บก.ปอท. จึงได้ทำการประสานข้อมูลไปยัง กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย และได้สืบสวนจนทราบรายละเอียดว่ามีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์จำนวน 55 หมายเลข ผ่านรหัสตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ของบริษัท เรียล มูฟ จำนวน 3 รหัส ซึ่งเป็นของ นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ 1 รหัส และของตัวแทนจำหน่ายรายอื่นอีก 2 รหัส แต่จากการตรวจสอบหมายเลขที่ใช้ในการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน พบว่า จาก 55 หมายเลข มีจำนวน 53 หมายเลขที่ลงทะเบียนจากโทรศัพท์มือถือของนายพีระเมศร์ภายในร้านโทรศัพท์ ชาน โมบาย ตั้งอยู่ที่ห้างดังในเมืองพัทยา ซึ่งมีนายพีระเมศร์เป็นเจ้าของ ส่วนอีก 2 หมายเลข ไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงน่าเชื่อว่า

               นายพีระเมศร์เป็นผู้ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือโดยใช้ ยูสเซอร์เนม (Username) และ พาสเวิร์ด (Password) ของตัวแทนจำหน่ายรายอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ และศาลได้อนุมัติตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1382/2561 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 61

 

 

 

               ต่อมาวันที่ 11 ก.ค. เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. และ บก.ป. จึงได้เดินทางไปที่ร้าน ชาน โมบาย ในห้างดังเมืองพัทยา เมื่อไปถึงบริเวณหน้าร้านพบนายพีระเมศร์ยืนอยู่ที่ร้านดังกล่าว พ.ต.ต.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.1 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.เอนก โชติพรหม รอง สว.กก.1 บก.ปอท. จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงหมายจับ

               พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำนายพีระเมศร์ เบื้องต้น รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์จำนวน 55 หมายเลข โดยใช้ชื่อนายกรัฐมนตรีจริง ส่วนสาเหตุที่ใช้รูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการลงทะเบียน เป็นเพราะในตอนแรกที่ตนใช้รูปลูกค้าลงทะเบียนพบว่าลงทะเบียนไม่ได้หลายครั้ง จึงคิดอยากทดลองใช้รูปคนดังในการลงทะเบียนซิมแทนการใช้รูปลูกค้า ส่วนเมื่อลงทะเบียนได้แล้วก็จะนำซิมไปจำหน่ายให้กับลูกค้าซึ่งส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ ราคาซิมละ 250 บาท ตำรวจแจ้งข้อหา ฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดทางอาญา โดยผู้ต้องหารายนี้จะต้องรับโทษต่างกรรมต่างวาระกระทงละ 5 ปี ซึ่งอาจจะถูกจำคุกสูงสุดถึง 275 ปี

               พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวระบุด้วยว่า การตรวจสอบจากทาง กสทช. และเจ้าของเครือข่าย ยังไม่พบว่าผู้ต้องหามีการนำซิมการ์ดดังกล่าวไปใช้ก่อการร้ายหรือหวังผลทางการเมือง และนายกรัฐมนตรียังกำชับให้ดำเนินการเด็ดขาดกับผู้ต้องหารายดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน

 

 

 

               นางจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม (กสทช.) ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากแอปพลิเคชันของ กสทช. ที่เพิ่งถูกนำมาใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงเทคโนโลยี แต่หลังจากนี้ก็จะต้องมีการประชุมกับตัวแทนเครือข่าย และตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อแก้ไขปัญหาอีกครั้ง
 

             จากกรณีดังกล่าว บก.ปอท. จึงขอแจ้งเตือนประชาชนรวมถึงตัวแทนจำหน่ายของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ หากนำยูสเซอร์เนม (Username) และ พาสเวิร์ด (Password) ของ ดีลเลอร์ (Dealer) รายอื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 5 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากตัวแทนจำหน่ายที่ทำการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือให้กับลูกค้า โดยใช้ข้อมูลของบุคคลอื่น การกระทำดังกล่าวอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชาชนที่มีการนำข้อมูลสำคัญของตนเองไปให้กับผู้อื่น เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเครดิต ต้องพึงระวังไว้เสมอว่า อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริตได้ จึงไม่ควรเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่ บุคคลทั่วไป หรือควรตรวจสอบอย่างใกล้ชิดกรณีต้องให้เอกสารดังกล่าวแก่บุคคลอื่นไปทำธุรกรรมต่างๆ เพราะอาจถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้อย่างผิดกฎหมาย และจะส่งผลร้ายกลับถึงตัวเจ้าของข้อมูลได้

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

คุก 275 ปี !! ใช้ชื่อ-รูป "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิม

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ