ข่าว

หนุ่มใหญ่ชาวจีนสวมบัตรปชช.คนไทยเปิดบริษัททัวร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" แถลงรวบหนุ่มใหญ่ชาวจีน สวมบัตรประชาชนคนไทย  ร่วมกับเมียเปิดบริษัททัวร์

 

          สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงผลการจับกุม นายเจิ้ง กุ่ยฮัว (MR.ZENG GUIHUA) อายุ 49 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายหมายจับศาลอาญาที่ 1473/2561 ลง 2 ก.ค. 2561 ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ,แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน มาตรา 14 

          โดยจับกุมเมื่อ 4 ก.ค. 2561 หลังพบว่า มีพฤติการณ์สวมบัตรประชาชนคนไทย เพื่อใช้ในการเปิดบริษัททัวร์ นอกจากนี้ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.ชัญญ์ชญา แซ่จี๋ สัญชาติไทย ภรรยานายเจิ้งผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่1477/2561 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ในข้อหาเป็นผู้ใช้หรือสนับสนุนให้ผู้มิได้มีสัญชาติไทยยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

          พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีบุคคลต่างชาติ เข้ามาสวมบัตรประชาชนคนไทย หรือแจ้งทำบัตรประชาชนโดยแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อให้ได้มาซึ่งบัตรประชาชนคนไทยและสิทธิตามกฎหมาย แล้วมาประกอบธุรกิจต่างๆ ในราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนำเที่ยว จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า นายเจิ้ง กุ่ยฮัว พฤติการณ์สวมบัตรประชาชนของ นายพะจคา สิงขรผล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน โดยมี น.ส.ชัญญ์ชญา เป็นผู้รับรองในการสวมบัตรประชาชนดังกล่าว และร่วมกับภรรยาประกอบธุรกิจนำเที่ยว จึงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับ และได้เข้าจับกุมตัวดังกล่าว

          รองผบช.ทท. กล่าวว่า สำหรับ น.ส.ชัญญ์ชญา เป็นกรรมการ จำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท นิวฟู่หัวทัวร์ กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด​จดทะเบียน 25 กุมภาพันธ์ 2557 บริษัท ฟู่หวา แทรเวล จำกัด​​​จดทะเบียน 17 กุมภาพันธ์  2547 และบริษัท ฮวง เฉียว ทัวร์ จำกัด​​​จดทะเบียน 1 มิถุนายน 2547 ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ได้ดำเนินการนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจบริษัทดังกล่าวร่วมกับ กรมท่องเที่ยว กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าตรวจสอบบริษัททั้ง 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกัน เลขที่ 41 ซอยสุจริต 1 ห้วยขวาง กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ