ญาติ "เมย์" ร้อง ประหารชีวิตมือฆ่าหั่นศพ

          จากกรณีพบศพหญิงสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนรวม 14 ชิ้น ยัดใส่กระสอบปุ๋ยโยนทิ้งอยู่ในพงหญ้าข้างทางถนนสามวา ระหว่างซอยสามวา 27-29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ลักษณา หรือเมย์ กำลังเก่ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด อดีตพนักงานบัญชี บริษัทพริ้นต์วิทมี จำกัด ซอยเลียบคลองสอง 29 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ก่อนที่จะควบคุมตัวนายธนกฤต หรือวุธ ประกอบ อายุ 36 ปี อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำ ก่อนเเจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นย้ายทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุเเห่งการตาย


 

          ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มิถุนายน นายแก้วมูล กำลังเก่ง อายุ 49 ปี บิดาผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายสมคิด จะมัง อายุ 59 ปี ลุงของผู้เสียชีวิต และญาติ เดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ที่ สน.มีนบุรี ขณะที่กำลังลงจากรถ นายแก้วมูล ถึงกับเป็นลม ทรุดตัวลงข้างรถ เนื่องจากโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา ญาติต้องคอยประคองอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นนายแก้วมูลเดินทางไปรับศพของลูกสาวที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นทางแพทย์ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของบุคคลในครอบครัวไปแล้ว ซึ่งจะต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับผู้ตายหรือไม่ จึงจะสามารถนำศพออกไปได้


 

          ทั้งนี้ ผลการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นของ น.ส.ลักษณา ระบุว่าเกิดจากกะโหลกศีรษะแตก สมองฉีกขาด จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกอย่างรุนแรง

          นายสมคิดกล่าวว่า ก่อนหน้านี้หลานสาวเคยมีครอบครัว มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเลิกรากันไป จากนั้นหลานสาวเดินทางเข้ามาทำงานในกทม. และคบหาดูใจกับนายธนกฤต ซึ่งหลานสาวเคยพาฝ่ายชายมาที่บ้านพักใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อมาพบกับครอบครัว ซึ่งครอบครัวรับรู้ว่าทั้งคู่คบหากันมาประมาณ 2 ปี แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายชายมีอุปนิสัยใจคอเป็นอย่างไร


 

          นายสมคิด กล่าวอีกว่า อยากฝากเรื่องนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีและผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ในโทษประหาร หากไม่ประหารชีวิต จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับเหยื่อรายอื่นๆ เนื่องจากโทษหนักสุดเพียงจำคุก ทำให้ผู้ก่อเหตุหลายๆ คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย

          “อยากฝากไปถึงผู้ต้องหาว่าแค่รู้ว่าหลานเสียชีวิตก็เสียใจที่สุดแล้ว ยิ่งพอมารู้ว่าหลานโดนหั่นศพด้วยยิ่งรับไม่ได้ ไม่สามารถให้อภัยได้ ขอยืนยันว่าจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด จนให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหาร ส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวขณะนี้ ยังไม่มีใครรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

 

          ในเวลาต่อมา นายแก้วมูล พร้อมด้วยญาติเดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำเอกสารหลักฐานการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี มายืนยันกับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชฯ เพื่อนำศพของลูกสาวกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดใน จ.ร้อยเอ็ด

          นายแก้วมูล กล่าวว่า ทราบเรื่องลูกสาวคบหากับคนร้ายมาประมาณ 2 ปี เคยเดินทางมาที่บ้าน จ.ร้อยเอ็ด พบหน้ากัน 2-3 ครั้ง คนร้ายดูเป็นคนเงียบๆ และลูกสาวไม่เคยเล่าถึงพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงใดๆ มีแต่ทะเลาะกันบางครั้ง ไม่นานมานี้ลูกสาวยังกลับมาที่บ้านเพื่อเยี่ยมตน ภรรยา ญาติ และลูกชาย วัย 5 ขวบ ที่มีกับสามีเก่าซึ่งตนช่วยเลี้ยงไว้ พร้อมบอกว่าเลิกรากับคนร้ายแล้ว จากนั้นราว 1 สัปดาห์ ได้พยายามติดต่อโทรศัพท์ไปก็ไม่ติด รู้สึกเป็นห่วง กระทั่งมาทราบข่าวร้ายที่เกิดขึ้นว่าลูกสาวถูกฆ่าและทำอย่างทารุณ

          “ยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงโทษนายวุธ ด้วยการตัดแขน ตัดขา แบบเดียวกับที่ทำกับลูกสาวของผม เพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ที่ผ่านมาลูกสาวไม่ค่อยเล่าเรื่องปัญหาครอบครัวให้ฟังมากนัก วันนี้จะนำศพกลับไปทำพิธีที่วัดดงหัวเรือ ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ยังไม่กำหนดสวดอภิธรรม หรือฌาปนกิจ ตอนนี้อยากพาลูกสาวกลับบ้านเกิดให้เร็วที่สุด” นายแก้วมูลกล่าว

          ด้านนางพัชรา กำลังเก่ง อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งรอรับศพน้องเมย์อยู่ที่บ้านใน จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ไม่คิดว่าเรื่องร้ายๆ จะเกิดขึ้นกับลูกสาว อยากให้กระบวนการทางกฎหมายลงโทษให้สูงสุดหรือถึงขั้นประหารชีวิตจึงจะสาสมกับการที่ตนต้องสูญเสียลูกสาวไป

          ทั้งนี้ ส่วนท่อนแขนขวาของผู้เสียชีวิตที่มีกระแสว่าหายไปนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า พบชิ้นส่วนครบเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุเช่นกัน

 

          ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร., พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น., พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น ได้ร่วมกันเเถลงข่าวที่ สน.มีนบุรี


 

          พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งว่าพบชิ้นส่วนศีรษะมนุษย์อยู่ในกระเป๋าเป้สะพาย ถูกทิ้งไว้บริเวณพงหญ้าข้างทางถนนสามวา ระหว่างซอยสามวา 27-29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ถูกหั่นชำแหละใส่ถุงดำ นำมาโยนทิ้งบริเวณจุดเกิดเหตุจำนวน 13 ชิ้น ตรวจสอบแล้วทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ลักษณา ต่อมาสืบสวนทราบว่าแฟนเก่าผู้เสียชีวิตชื่อนายธนกฤต จึงได้เชิญมาสอบปากคำ


 

          นายธนกฤต ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่า น.ส.ลักษณา จริง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน นายธนกฤตได้ใช้ค้อนตีศีรษะผู้ตาย 1 ครั้งหมดสติไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงผู้ตายรู้สึกตัวจึงใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะแล้วใช้ค้อนทุบตีที่ศีรษะอีก 3-4 ครั้งจนผู้ตายหมดสติเเละเสียชีวิต เเละได้ปล่อยศพทิ้งไว้หนึ่งวันโดยวันที่ 13 มิถุนายน นายธนกฤตได้ไปทำงานตามปกติก่อนกลับมาที่ห้องพัก


 

          จนเวลาประมาณ 23.00 น. จึงได้เริ่มหั่นชำแหละศพผู้เสียชีวิตในถุงดำ จนช่วงระหว่างเวลา 04.00-05.10 น. นายธนกฤตได้นำชิ้นส่วนศพผู้เสียชีวิตไปทิ้งบริเวณที่พบชิ้นส่วนศพ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ

          ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ตอนแรกยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร จากการสืบสวนทำให้ได้วัตถุพยานจากที่เกิดเหตุ ประกอบกับได้หลักฐานสำคัญคือลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถลอกลายนิ้วมือได้ เมื่อทราบว่าผู้ตายเป็นใครก็ง่ายขึ้น ทำให้มีร่องรอยที่เป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้ต้องหา ตอนแรกผู้ต้องหาไม่รับสารภาพ แต่ภายหลังรับสารภาพเพราะยอมจำนนต่อหลักฐาน โดยสาเหตุมาจากการหึงหวงผู้ตาย เนื่องจากจะกลับไปหาแฟนเก่า จึงได้ใช้ค้อนที่อยู่ภายในห้องพักทำร้ายร่างกาย


 

          พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาให้การว่าตกใจ ไม่รู้ว่าจะจัดการศพอย่างไร จึงทิ้งศพไว้ในห้องพัก 1 คืน อีกทั้งศพเริ่มแข็งตัว จึงใช้มีดทำครัวชำแหละศพ เนื่องจากเคยเป็นพ่อครัวมาก่อน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไม่พบว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิต และไม่พบประวัติก่อเหตุอาชญากรรมก่อน ส่วนที่หลังจากนำศพไปทิ้งแล้วกลับมาโพสต์และแชร์ข่าวในเฟซบุ๊กตัวเองนั้น มองว่าเป็นการกลบเกลื่อน


 

          พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อีกทั้งพยานหลักฐานทั้งหมดนั้นมัดตัวผู้ต้องหาว่าเป็นลงมือก่อเหตุจริง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที