รถพ่วงชน จยย. หนุ่มวัย 17 ดับ!

               สลด!! หนุ่มวัย 17 ขับขี่ จยย. ชนรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ เสียชีวิต สันนิษฐานผู้ตายขับขี่รถมาตามเส้นทาง ถึงจุดเกิดเหตุไม่เห็นรถบรรทุกที่กำลังเลี้ยวออกมา จึงพุ่งชนอย่างจังเป็นเหตุให้เสียชีวิต

               เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 มิ.ย.61 ร.ต.ท.ปิติพงษ์ ทองสีอ้น รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร ถนนพิษณุโลก – นครสวรรค์ ขาออกเมืองพิษณุโลก ม.9 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

               ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออิซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-9115 นครสวรรค์ ตัวลูก 70-9116 นครสวรรค์ จอดอยู่บริเวณกลางถนน สภาพรถด้านหน้าข้างขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างจัง ทราบชื่อผู้ขับขี่ต่อมาคือ นายบัณฑิต ทรงเจริญ อายุ 42 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 9 ม.15 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

               ตรวจสอบภายในใต้ท้องรถบรรทุกคันก่อเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายภูวดล นวลทิม อายุ 17 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 11 ม.7 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเทา สวมกางเกงสาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณใบหน้า ศีรษะเปิด มันสมองกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน กษร 386 พิษณุโลก สภาพรถพังเสียหายยับเยิน

               สอบถามนายบัณฑิต ผู้ขับขี่รถบรรทุกคันก่อเหตุ เล่าว่า ตนขับรถมาจาก จ.นครสวรรค์ นำของไปส่งที่ จ.สุโขทัย และกำลังจะกลับไปที่ จ.นครสวรรค์ ตนได้แวะกินข้าวบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร หลังจากนั้นก็ได้ขับรถออกมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงชนอะไรบางอย่างจึงลงมาดู พบว่าตนได้ชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

               จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ตายอาจจะขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทาง และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุอาจจะไม่ทันเห็นรถบรรทุกที่กำลังจะเลี้ยวออกมา จึงทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจังเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ สาเหตุที่แท้จริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถบรรทุกคันก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตร ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป