รอง ผบ.ตร.ลุยโรงงานหลอมขยะอิเลคทรอนิคพบผิดเต็มตา

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ฝ่ายบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลมาบไผ่ ได้เข้าตรวจสอบหลังจากชาวบ้านโรงเรียนว่ามีโรงงานปล่อยสารพิษ ทำให้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และมีอาการโรคภูมิแพ้ ซึ่งเป็นโรงงานของบริษัท วันโปรเกรสพาร์ท จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 45/9 หมู่ 4 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 25 ไร่ โดยมี น.ส.ไพลิน บุญมี อ้างเป็นกรรมการบริษัท และชายชาวจีน อายุประมาณ 50 ปีเศษออกมาชี้แจงและตอบข้อซักถาม นอกจากนี้ยังพบว่าภายในโรงงานมีเตาหลอมพลาสติก ถุงเศษพลาสติก และโทรศัพท์มือถือเก่าจำนวนมาก

ชาวบ้านที่ร้องเรียนกล่าวว่า โรงงานดังกล่าวได้ส่งกลิ่นเหม็นมาก ทำให้นอนไม่หลับ เด็กและคนแก่ต้องนอนห้องแอร์ เพราะไม่อยากให้ได้รับสารพิษ

หลังจากการตรวจสอบ  พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า การตรวจสอบโรงงานในครั้งนี้ฟันธงได้เลยว่าเป็นไปตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมา เพราะมีพยานหลักฐานว่าโรงงานมีการปล่อยสารพิษจริง เพราะการหลอมพลาสติกนั้นจะมีไอระเหยออกมา ที่สำคัญโรงงานไม่มีเครื่องกำจัดหรือดูดกลิ่นจากไอพลาสติก และไม่มีเครื่องดูดสารเคมี ทำให้ชาวบ้านได้รับสารพิษดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานเพิ่งหยุดการทำงาน ทั้งที่ได้มีการสั่งปิดโรงงานไปแล้ว รวมทั้งยังพบว่ามีกลิ่นของโลหะหนักคือ สารไฮโดรคลอไรด์หรือส่วนประกอบของพลาสติกที่ระเหยออกไปนอกโรงงาน และการหลอมด้วยความร้อนจะมีสารไดออกซิน หลุดระเหยออกไป ทำให้ชาวบ้านมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ซึ่งเหมือนกันโรงงานที่ตรวจพบใน จ.สมุทรปราการ

โดยตำรวจได้มีการตั้งข้อหาประกอบไปด้วยมีไว้ในครอบครองขยะสิ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยผิดพระราชบัญญัติโรงงานปี 2535 มาตรา 23 วรรค 1 โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งจาการตรวจสอบจากอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีพบว่า โรงงานแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตในการประกอบกิจการโรงงานคัดแยกวัตถุอันตราย จึงมีความผิดฐานตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน มาตรา 12 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังได้มีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาติ ตรวจสอบแล้วพบว่ามีเครื่องหลอมพลาสติกเพิ่มขึ้นมา 1 โรงงาน จึงมีความผิดขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน มาตรา 18 โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังฝ่าฝืนประกอบกิจการโรงงานในระหว่างที่มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานอันเป็นความผิด พระราชบัญญัติโรงงาน มาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับวันละ 5 พันบาท จนกว่าจะหยุด โดยทางอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีได้สั่งให้หยุดประกอบการตั้งแต่วันที่ 27 เมายน 2561 รวมถึงวันนี้เป็นเวลา 58 วัน ปรับวันละ 5 พันบาท และไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงมาตรฐาน และวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใดๆที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน และจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป