ฝากขัง "หนุ่มโคลัมเบีย" ขโมยขึ้นบ้านอดีต รอง อธ.ศาลอาญา

            18 มิ.ย.61-ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.นที จันทรา พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ได้ควบคุมตัวนายโจเซ่ อเล็กซานเดอร์ โรดริเกซ เวลานเดียร์ (Jose Alexander Rodriguez Velandia) อายุ 47 ปี เชื้อชาติ-สัญชาติโคลัมเบีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 840/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย.59 คดีลักทรัพย์ในเคหะสถานฯ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก และรอผลตรวจสอบของกลาง กับผลตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา

           โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐานอื่น นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้กระทำความผิดในพื้นที่ สน.มีนบุรี อีกด้วย ซึ่งศาลจังหวัดมีนบุรี ก็ออกหมายจับไว้แล้วลงวันที่ 17 มิ.ย.61 โดย สน.มีนบุรีได้ขออายัดตัวผู้ต้องหาไว้ด้วยเพื่อจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

           ทั้งนี้ สำหรับคำร้องฝากขัง ก็ได้ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อ วันที่ 13 เม.ย.59 เวลา 09.00 น - 22.00 น. นายโจเซ่ ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ รวม 3 รายการ ได้แก่ พระเครื่อง , แหวนทองคำ และนาฬิกาข้อมือ รวมทั้งสิ้น 63,500 บาท ของนายสถาพร ดาโรจน์ (ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 และอดีตรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ปัจจุบันเป็น) ไป เหตุเกิดที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บช.น.ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวชาวต่างชาติตามหมายจับของศาลอาญาที่ 840/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย.59 คดีลักทรัพย์ฯ ดังกล่าว

          กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.61 เวลา 20.30 น.ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า ชายต้องสงสัยดังกล่าวลักษณะตามหมายจับนั้น กำลังเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จ.อุดรธานี โดยรถประจำทางจึงประสานกับตำรวจภูธรภาค  4 และตำรวจท่องเที่ยวให้ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว ซึ่งสามารถจับกุมชายชาวต่างชาติตามหมายจับ ขณะรถประจำทางยู่บน ถ.มิตรภาพ ช่วงระหว่างอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยชายต่างชาติดังกล่าวไม่มีเอกสารประจำตัวให้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปซักถามที่ สภ.บ้านไผ่ ซึ่งชาวต่างชาติได้แจ้งว่าชื่อโจเซ่ สัญชาติโคลัมเบียและยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุมครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านเข้าไปด้วยประการใดๆในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพนะ เพื่อสะดวกแก้การหลบหนี ตามประมวลกฎหมายอาญาม.83,334 ,335(1)(3)(7)(8),336 ทวิ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

           ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

           ขณะที่ภายหลังการฝากขัง และสิ้นสุดระยะเวลายื่นประกันตัว ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใด ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว "นายโจเซ่" ผู้ต้องหา ในชั้นฝากขังนี้ แต่อย่างใด ตัวจึงต้องถูกคุมขังในเรือนจำ