เหยื่อทหารเกณฑ์หลอกถ่ายโป๊ โผล่อีกราย!!

 

               นศ.สาววัย 19 เหยื่อถูกหนุ่มทหารเกณฑ์อ้างเป็นโมเดลลิ่งหลอกถ่ายโป๊ก่อนคลิปโผล่กลุ่มลับ เดินทางร้องกองปราบ เพิ่มอีกราย ด้านทนายดังวอนตำรวจเอาผิด 3 ข้อหา-ล่าตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ

 

               จากกรณีนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นศ.มหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้าร้องทุกข์ที่กองปราบ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังโดนชายหนุ่มอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งหลอกให้ถ่ายภาพนิ่งและคลิปเปลือยกาย อ้างว่าเป็นการทดสอบหน้ากล้องสำหรับแคสงานเป็นพรีเซ็นเตอร์รีวิวสินค้า ก่อนนำภาพกับคลิปไปโพสต์ขายให้กลุ่มลับ

 

 

 

 

 

 

               กระทั่งให้หลังต่อมาเพียงแค่วันเดียว ชายหนุ่มที่อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งดังกล่าว ก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล และเจ้าหน้าที่ทหาร ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ทราบชื่อ นายวิชชากรณ์ ไชยคชบาล อายุ 21 ปี เป็นทหารเกณฑ์สังกัดหนึ่ง
 

 

 

               เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.61 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จ.เชียงราย และ น.ส.ชัชฎา ชำนาญณิชชญาณ์ อายุ 30 ปี จ.อุดรธานี อาชีพนางแบบ ผู้เสียหายที่ถูกนายวิชชากรณ์ ไชยคชบาล อายุ 21 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหนึ่ง หลอกให้ถ่ายภาพเปลือยและนำรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กไปแอบอ้าง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อรชัย กุมจันทึก สว.กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมกับนายวิชชากรณ์ หลังวานนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล จับกุมตัวไปแล้ว

 

               นายรณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายราย ที่ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกให้ถ่ายภาพเปลือยแล้วนำไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามช่วยเป็นผู้ทำคดีดังกล่าวให้ เพื่อเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ , ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ , ในความผิดผลิตสื่อลามกอานาจาร

 

 

 

 

               นายรณรงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังอยากจะขอให้ทางตำรวจกองปราบช่วยขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เนื่องจากพบข้อมูลว่ามีคนร้ายอีกรายที่ใช้ชื่อว่า “มิสเตอร์บีน” ในสื่อออนไลน์ เป็นผู้ร่วมกระทำผิดอีกราย ซึ่งอยากให้ทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้

 

               ด้าน น.ส.เอ เล่าว่า ถูกผู้ต้องหาคนนี้หลอกให้ถ่ายรูปเปลือยส่งไปให้ โดยอ้างว่าจะให้เงินครั้งละหลักหมื่นบาท และยังนำภาพเปลือยผู้หญิงรายอื่นส่งมาให้ดู นอกจากนี้ผู้ต้องหายังบอกอีกว่าจะขอรับเลี้ยงดูเป็นรายเดือน โดยจะให้เดือนละ 30,000 บาท ซึ่งตนหลงเชื่อจึงได้ถ่ายรูปเปลือยส่งไปให้ และสุดท้ายมาพบว่ารูปตนเองถูกส่งต่อบนแอปพิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ต

 

 

 

 

               ส่วน น.ส.ชัชฎา กล่าวว่า ตนถูกคนร้ายรายนี้นำโปรไฟล์เฟซบุ๊กไปแอบอ้างกับบุคคลอื่นว่าเป็นผู้หญิงที่รับเลี้ยงดูให้เงินเป็นรายเดือน ต่อมามีเพื่อนในวงการนางแบบมาสอบถามว่ามีคนเลี้ยงดูจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ตกใจ เพราะเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และยังทำให้ตนได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย เหตุนี้ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความในวันนี้

 

               ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.กรชัย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. ว่ามีผู้เสียหายมาแจ้งความลักษณะเดียวกันนี้ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. รวบรวมข้อมูลส่งให้ทางกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ตรวจสอบ หากพบว่าเป็นผู้กระทำความผิดคนเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกัน ทางกองปราบปรามจะส่งสำนวนให้ บก.ปคม. ดำเนินคดีต่อไป