กองปราบสกัดกัญชาอัดแท่ง 650 โล มูลค่ากว่า 13 ล้าน

          12 มิ.ย.61-ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รองผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายไพศาล ธงสันเทียะ อายุ 40 ปี นายองอาจ วรรณปักเขต์ อายุ 27 ปี นายอรรถพล นิตย์คำหาญ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 650 แท่ง น้ำหนักรวม 650 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน ญษ 3402 กทม. รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน ผห 1618 ชลบุรี โดยทั้งหมดจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

                               พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้เมื่อประมาณวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจ.ขอนแก่นได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 590 กิโลกรัม ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือของเครือข่ายนี้ ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดชาวไทยรายใหญ่ในพื้นที่อีสานตอนบน ที่มักจะมีการลักลอบขนกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในพื้นที่ประเทศไทยเป็นประจำ ซึ่งการขนลำเลียงแต่ละครั้งจะมีการทำเป็นรูปแบบขบวนการมีรถยนต์ขับนำขบวนและรถปิดท้ายขบวน เพื่อดูต้นทางและสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม

           
            ด้าน พ.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังจากจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนลำเลียงกัญชาล็อตใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาภายในประเทศอีกครั้ง ผ่านทางฝั่งรอยต่อชายแดนภาคอีสานตอนบนในพื้นที่ จ.อุดรธานี จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 4 คัน ขับมากันเป็นขบวนอยู่บนถนนมิตรภาพ จึงเฝ้าสะกดรอยติดตาม กระทั่งถึงบริเวณพื้นที่ ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นรถยนต์ 2 คันท้ายขบวน จนพบของกลางกัญชาอัดแท่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ของกลางดังกล่าว อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเข้าสกัดจับกุมและตรวจค้นรถ 2 คันท้ายขบวนนั้นปรากฎว่ารถนำขบวนอีก 2 คัน ที่ขับนำหน้าไปก่อนหน้านี้เกิดไหวตัวทันจึงเร่งความเร็วรถขับหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

   
           เบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ โดยนายองอาจ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมได้นั้นยอมรับด้วยว่าตนเองเป็นหัวหน้าขบวนการยาเสพติดดังกล่าว ส่วนนายไพศาล และนายอรรถพล ผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ถูกจับกุมตัวพร้อมกันนั้นเป็นเพียงลูกน้องที่จ้างมาเพื่อให้ช่วยขนลำเลียงเท่านั้นโดยกัญชาของกลางทั้งหมดตนรับมาจากประเทศเพื่อนบ้านติดกับฝั่งชายแดนภาคอีสานตอนบน(ประเทศ สปป.ลาว) ก่อนจะนำไปขายต่อให้กับกลุ่มเอเย่นต์รายย่อยและกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ ของไทย ซึ่งหากกัญชาล็อตดังกล่าวถูกส่งไปถึงมือลูกค้าได้จะมีมูลค่ากว่า 13 ล้านบาทเลยทีเดียวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 หรือกัญชา ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนส่งตัวพร้อมของกลางให้กับทางพนักงานสอบสวน บช.ปส. รับไปทำการขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป