ม้าเหล็กชนกระบะ สท.-เมียพร้อมญาติเจ็บสาหัส หลังกลับมาจากงานเลี้ยงฉลองนาค
สท.นาโพธิ์พัฒนา อ.สวี ขับกระบะกลับจากงานเลี้ยงฉลองนาค มาพร้อมเมียและญาติ ฝ่าไม้กั้นทางรถไฟ ทำให้รถไฟขบวนเร็ว นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ที่กำลังวิ่งมา พุ่งเข้าชนเต็มแรง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 9 มิ.ย.61 พ.ต.ท.พัฒนา กองช่าง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์กระบะ บริเวณทางข้ามรถไฟบ้านเขาสวนทุเรียน หมู่ 3 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เร่งตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน บบ 7124 ชุมพร สภาพด้านท้ายข้างขวามีร่อยรอยถูกเฉี่ยวชนเสียหาย โดยตัวรถตกอยู่ไหล่ทางติดกับทางตัดรถไฟดังกล่าว ห่างประมาณ 100 เมตร พบรถเร็วขบวน 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ จอดอยู่ โดยมีผู้โดยสารเต็มขบวน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำส่งโรงพยาบาลสวี ไปก่อนแล้ว
ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมบุญ อาลาวี หรือ สท.หมู อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/2 หมู่ 3 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร คนขับ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาโพธิ์พัฒนา อ.สวี อาการบาดเจ็บสาหัส มีแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะและกระดูกต้นคอ แขนขาไม่มีความรู้สึก นางสะอิ้ง แสงบางมุด อายุ 58 ปี ภรรยา นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ใบหน้ามีอาการฟกช้ำ และนางจันทร์ฉาย พิมาน อายุ 55 ปี เป็นญาติ อยู่บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 3 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร นั่งโดยสารมาด้วยบริเวณแคปหลัง บาดเจ็บบริเวณข้อมือ
ด้าน พ.ต.ท.พัฒนา กองช่าง พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นหลังสอบสวนพยานทราบว่าทั้งหมดกลับจากงานเลี้ยงฉลองนาคแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6-7 กม. เมื่อใกล้ถึงจุดข้ามทางรถไฟ ไม้กั้นได้ทำการปิดกั้นเป็นการแจ้งเตือนไม่ให้รถข้าม คาดว่านายสมบุญ ได้ขับซิกแซกเพื่อหลบไม้กั้น แต่ขณะเดียวกันที่นางจันทร์ฉาย ได้ตะโกนบอกว่าระวังรถไฟ พูดไม่ทันขาดคำ ทำให้รถไฟชน แต่โชคยังดีที่ถูกชนแค่บริเวณส่วนท้ายรถเท่านั้น
นายสุชาติ แสงบางมมุด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.นาโพธิ์ ให้การขณะอยู่ในที่เกิดเหตุว่า ก่อนหน้านี้ไม้กั้นรถไฟมีปัญหา บางทีมีอาการสั้นค้าง ลงกั้นบ้างไม่ลงบ้าง เป็นอยู่หลายครั้งหลายหน แจ้งนายช่างที่รู้จักกันให้รีบแก้ไข แต่ได้รับคำตอบมาว่าระบบนี้เป็นแบบนี้แหละ
พนักงานสอบสวน กล่าวอีกว่า เอกสารส่วนตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ภายในรถได้มีญาติเก็บรวบรวมไว้หมด รวมถึงกล้องติดหน้ารถก็เอาไปด้วย เหลือไว้แต่สายไฟต่อเข้ากล้องเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นหลักฐานอย่างดีและชัดเจนมากขึ้นว่า นายสมบุญ ขับรถซิกแซกหลบไม้กั้นหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตาม นายสมบุญ ก็มีความผิดในข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหายอยู่ดี
สำหรับรถไฟขบวนดังกล่าว ได้มีหัวรถจักรมาลากกลับไปยังสถานีบ้านเขาสวนทุเรียน และหยุดเดินรถเป็นการชั่วคราวจนกว่าสำรวจความเสียหายเสร็จสิ้น จึงสามารถเดินทางต่อไปยังกรุงเทพมหานครได้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง