ข่าว

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตม.สั่งสอบ 2 ตำรวจเอี่ยวเปิดทาง"อดีตพระพรหมเมธี" หนี พร้อมขอศาลออกหมายจับ 5 คน ใกล้ชิด ขณะที่ ผบ.ตร.กลับถึงไทยหลบสื่อ

          จากกรณีการติดตามจับกุมตัวอดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ หลังหนีกบดานพื้นที่ จ.นครพนม และพบเบาะแสว่ามีการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และขอลี้ภัยยังประเทศเยอรมนีนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ที่พาหลบหนีและช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี จำนวน 5 คน เป็นชาวไทย 3 คน และชาวลาว 2 คน

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี
 

          เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครพนม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลพิจารณาออกหมายจับบุคคลที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ นำพา อดีตพระพรหมเมธี หลบหนีออกจากประเทศไทยจำนวน 5 คน เป็นคนไทย 3 คน และคนลาว 2 คน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ให้รายละเอียดว่ามีใครบ้าง

          อย่างไรก็ตามสำหรับ 5 คน ที่มีข่าวว่ามีส่วนช่วยเหลือและนำพาอดีตพระพรหมเมธีหลบหนีก่อนหน้านี้ประกอบไปด้วย 1.คนขับรถ ซึ่งเป็นคนสนิทของอดีตพระพรมเมธี 2.สีกา จ. เจ้าแม่วงการตลาดหุ้นของเมืองไทย 3.นายโค๊ด หลานชายอดีตพระพรหมเมธี 4.นางจันทนา หรือจันตนา รัตนวงศ์ หญิงชาวลาว และ 5.ลูกชายของนางจันทนา

          รายงานข่าวแจ้งว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 2 นาย เป็นตำรวจระดับสารวัตรและชั้นประทวนที่อาจเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนำอดีตพระพรหมเมธีหลบหนีด้วย
 

          ความคืบหน้าในการติดตามจับกุมอดีตพระธรรมเมธีกลับมาจากประเทศเยอรมนีมาดำเนินคดี

          ล่าสุดเมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 6 มิถุนายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการติดตามอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์จากเยอรมนีกลับมาดำเนินคดีว่า การเจรจาขอตัวอดีตพระพรหมเมธีเป็นไปโดยเรียบร้อยดี ยืนยันตามที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ว่าเจ้าหน้าที่ของเยอรมนีจะช่วยพิจารณาเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเดินทางกลับมาก่อนนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ยัง ก็บอกว่า 3 วันไง”

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี
 

          เมื่อถามว่ามีแนวโน้มแค่ไหนที่จะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาพร้อมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ แต่ไทยก็ช่วยทางเยอรมันไว้เยอะ อย่างไรก็ตามได้ชี้แจงไปแล้วว่าการดำเนินคดีอดีตพระพรหมเมธีไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งทางเยอรมนีดำเนินการตามวิธี ซึ่งจะใช้เวลา 2 เดือน แต่เราขอปรับมาเป็น 3 วัน และขอทราบผลในการพิจารณา

          เมื่อถามว่าหากผลการพิจารณาออกมาว่าทางเยอรมนีจะไม่ส่งตัวให้ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามนี้ ก่อนเดินเข้าห้องประชุมไป

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกระแสข่าวมีรายชื่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางออกจากสนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี มายังประเทศไทย ด้วยเที่ยวบินสายการบินไทย ทีจี 923 โดยกำหนดจะถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.30 น. วันนี้ (6 มิ.ย.) ซึ่งสื่อมวลชนจำนวนมากจากทุกสำนักข่าวต่างไปเฝ้ารอสัมภาษณ์ แต่ภายหลังจากเที่ยวบินดังกล่าวลงจอดให้ผู้โดยสารลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครพบเห็นว่าคณะของพล.ต.อ.จักรทิพย์เดินออกมาจากภายในสนามบิน

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี แฟ้มภาพ

 

          รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์พร้อมคณะ เดินทางกลับมาจริง และเดินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.50 น. โดยออกจากสนามบินทางช่องทางพิเศษ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเดินทางไปยังที่ใดต่อ คาดว่าเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจึงจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสื่อมวลชนก็ได้เดินทางไปรอทั้งสองแห่งแต่ก็ไม่มีใครพบและได้สัมภาษณ์พล.ต.อ.จักรทิพย์แต่อย่างใด

          แหล่งข่าวกล่าวว่า พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ที่เดินทางร่วมคณะผบ.ตร. ไปเยอรมนี เพื่อติดตามคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย โดยยังคงทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับทางการเยอรมนีในการรับตัวอดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีในไทย
 


หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี แฟ้มภาพ

          นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์กรณีที่อดีตพระพรหมเมธียื่นขอลี้ภัยหนีคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ประเทศเยอรมนี ว่าต้องดูว่าประเทศเยอรมนีจะพิจารณาอย่างไร แต่ตามที่ตำรวจไทยทราบข่าวและเดินทางไปถึงเยอรมนีนั้น ประเทศไทยน่าจะมีความร่วมมือที่ดี การขอลี้ภัยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศเยอรมนีเอง เราคงต้องรอกระบวนการทางนั้น ไม่เหมือนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนเรื่องที่จะขอให้อัยการดำเนินเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามเเดนมานั้น สำนวนคดีนี้ยังไม่ได้ส่งเข้ามายังอัยการ และอัยการยังไม่ได้รับการร้องขอให้ดำเนินการใดๆ ต้องรอการส่งสำนวนหรือร้องขอมา ซึ่งขณะนี้ทราบว่าสำนวนทางตำรวจยังไม่เสร็จ อัยการพร้อมปฏิบัติในสิ่งที่เป็นไปตามกฎหมาย

          “อย่างคดีของนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ (บีบีซี) ที่อัยการต้องสั่งสำนวนแล้วถึงทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามเเดน แต่คดีนี้ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งอะไรมา” นายโกศลวัฒน์กล่าว

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี แฟ้มภาพ
 

          พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ที่หลบหนีไปเยอรมนีกลับมาดำเนินคดี ว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ คิดว่าต้องรอสักระยะจึงจะมีความชัดเจนในรายละเอียด

          "ผมอยากให้มองพระที่น่าเคารพ สร้างประโยชน์ให้หมู่บ้านและชุมชน พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังมีอยู่จำนวนมากทั่วประเทศ มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นปัญหาทำให้พระศาสนาเสื่อมเสีย ประเทศไทยคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ขอให้ใช้วิจารณญาณเรื่องนี้ และอยากให้มองสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก มีพระจริยวัตรที่งดงามเป็นตัวอย่าง บางเรื่องรับสั่งในสิ่งที่เราหลงลืมไปแล้วเพราะไปสนใจเพียงแต่เรื่องที่สะใจเท่านั้น ในส่วนของพศ.ได้รับนโยบายการทำงานไปแล้ว เรื่องใดที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูก และการตรวจสอบต่างๆ ก็ถือเป็นการปฏิรูป เพราะเป็นการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น หลายเรื่องที่เป็นข่าวว่าไม่ดีแต่สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องดีเพราะเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่ดีและไม่ดีเป็นอย่างไร” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นถึงเวลาที่เราจะต้องสังคายนาพระพุทธศาสนาแล้วหรือยัง พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า วันนี้พศ.ได้รับนโยบายแล้วให้เดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูกต้อง และจริงๆ การดำเนินคดีครั้งนี้ถือเป็นเรื่องหนึ่งในการปฏิรูปเหมือนกัน ต้องทำให้ดีขึ้น อย่างน้อยเมื่อทำสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้นจะทำให้เราได้รู้ข้อเท็จจริงว่าอะไรเป็นอะไร

          ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลา 3 วันที่ทางการเยอรมนีขอเวลาตรวจสอบนั้นคิดว่าจะได้ตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ให้รอความชัดเจนก่อน

          ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวว่าอดีตพระพรหมเมธีปฏิเสธที่จะคุยกับเจ้าหน้าที่ของไทย พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ไม่เป็นไร ว่าไปตามกติกากฎหมายและหลักฐาน ส่วนพระรูปอื่นที่หลบหนีความผิดไปต่างประเทศจะดำเนินคดีอย่างไรนั้น ถ้าผิดกฎหมายก็ทำตามกฎหมายทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

          เมื่อถามว่าอดีตพระที่ทำให้เสื่อมเสียส่วนใหญ่เป็นพระผู้ใหญ่ที่ไม่น่าจะกระทำผิด รองนายกฯ กล่าวว่า พระผู้ใหญ่ระดับพระราชาคณะมีเป็นร้อยรูปยังเป็นพระที่ดี แต่ที่เห็นว่าทำผิด 5-10 คนที่ทำให้เป็นปัญหา

          เมื่อถามถึงการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตเงินทอนวัดมีการขยายผลเพิ่มเติมในพื้นที่ใดบ้าง พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานเพิ่ม ส่วนที่ตรวจพบอยู่ในกระบวนการของตำรวจ ให้เดินหน้าทำงานไปเรื่อยๆ
 

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี แฟ้มภาพ

          ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงอาการป่วยของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และปลอมและใช้พระปรมาภิไธยโดยไม่ได้รับอนุญาตว่า นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รายงานอาการป่วยจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร โดยอาการปวดหลัง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ให้อดีตพระพุทธะอิสระ ทำกายภาพบำบัดมาแล้ว 5 ครั้งจนอาการปวดหลังดีขึ้น ส่วนอาการเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาอาการโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์ได้เปลี่ยนการรักษาจากให้ยากินเป็นการฉีดยาเข้าเส้นเลือดทุก 12 ชั่วโมง และในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ แพทย์ได้นัดตรวจอาการอย่างละเอียดด้วยวิธีการส่องกล้อง ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอาการ ระหว่างนี้ยังคงคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ได้พักรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

          พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า สำหรับอดีตพระเถระผู้ใหญ่ในคดีทุจริตเงินทอนวัด ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้เหมือนผู้ต้องขังรายอื่นๆ และยังนั่งสมาธิสวดมนต์ปกติ ยังไม่รับประทานอาหารเย็น ในส่วนสภาพร่างกายไม่พบอาการเจ็บป่วยหนัก
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ (6 มิ.ย.) กลุ่มลูกศิษย์ของอดีตพระพุทธอิสระ ได้เดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

หมายจับ 5 คนใกล้ชิด"จำนงค์"พาหนี
 

          นายมหัศจักร โสดี ผู้ประสานงานกลุ่มศิษย์วัดอ้อน้อย ซึ่งนำคณะศิษย์เดินทางเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมว่า รู้สึกโล่งใจที่ถึงเห็นอดีตพระพุทธะอิสระมีหน้าตาที่สดชื่นขึ้น แม้จะมีอาการปวดหลังและเลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาอาการ วันนี้อดีตพระพุทธะอิสระยังต้องใช้เครื่องช่วยพยุงตัวเดินออกมายังห้องเยี่ยมญาติ แต่อาการโดยรวมดูดีขึ้นและกำลังใจยังดีอยู่ ซึ่งลูกศิษย์ก็ดีใจที่ได้มาเห็นอาการด้วยตาตัวเอง ทั้งนี้ อดีตพระพุทธะอิสระไม่ได้กล่าวถึงอาการป่วย บอกกลุ่มศิษย์เพียงว่าไม่ต้องเป็นห่วง สามารถใช้ชีวิตในเรือนจำได้ตามปกติ ตื่นตีหนึ่งตีสองมานั่งทำสมาธิเหมือนอยู่ที่วัดและยังนุ่งขาวห่มขาวเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามในส่วนของคณะศิษย์เองก็ตกลงกันที่จะเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะเข้าเยี่ยมในวันพุธวันเดียวเท่านั้น
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ